อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน สำหรับในมุมมองของคุณ อาจจะคิดว่าอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนนั้นมีที่มาจากการขับรถโดยประมาท ไม่ระมัดระวัง แม้ว่าจะถูกส่วนหนึ่ง แต่ก็มีบางเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้ ก็คือ บางครั้งอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ทั้ง ๆ ที่คุณก็ระวังอยู่แล้ว แต่พลาดตรงจุดบอดบางจุดที่นึกไม่ถึง ซึ่งมันจะตามมาด้วยอุบัติเหตุได้เหมือนกัน
ในวันนี้ ร้านไทยจราจร มีจุดบอด 10 จุด ที่คนขับมองไม่เห็นแล้วเกิดอุบัติเหตุได้บ่อย ๆ มาฝากกัน เพื่อที่คุณจะได้เตรียมระวังป้องกันเอาไว้ รวมถึงหาอุปกรณ์เสริมมาไว้ใช้งานเผื่อด้วย
1.จุดบอดทางโค้ง จุดบอดอย่างแรกที่ร้านไทยจราจรจะขอกล่าวถึง คือ จุดบอดทางโค้ง เพราะเป็นจุดที่คุณสามารถพบเห็นได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทางโค้งปกติ หรือทางโค้งหักศอก ที่ไม่มีการติดตั้งกระจกโค้งจราจร ก็ล้วนแต่เป็นจุดบอดที่ทำให้คุณมองเห็นรถที่สวนมาได้ไม่ถนัด และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นทางโค้งหักศอกมาก ๆ สิ่งที่คุณจะเห็นได้ก็มีแค่ทัศนวิสัยด้านหน้าเท่านั้น วิธีป้องกันอุบัติเหตุจากจุดบอดทางโค้งก็คือ เมื่อถึงที่แล้ว ให้คุณส่งสัญญาณไฟสูงไป 1 ครั้ง เพื่อให้รถที่สวนมาทราบ หรือถ้าเป็นช่วงกลางวัน ให้คุณใช้เสียงแตรให้รถอีกฝั่งหนึ่งได้ยิน ส่วนถ้าจะแก้ไขให้ยั่งยืนที่สุด คุณควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาติดตั้งกระจกโค้งจราจรให้ เพื่อให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลดลง
2.จุดบอดเนิน หรือทางขึ้นสะพาน เป็นจุดบอดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน เพราะในการขึ้นเนินหรือขึ้นสะพาน คุณจะไม่มีโอกาสเห็นได้เลยว่า ณ ขณะนั้น บนสะพานหรือบนเนินมีสถานการณ์เป็นอย่างไร จนกว่าจะขึ้นไปถึง ถ้าตัวคุณหรือรถที่อยู่บนสะพานขับคร่อมเลนมา ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ วิธีแก้คือคุณต้องค่อย ๆ ขึ้นอย่างระมัดระวัง และควรมีการติดไฟกระพริบโซลาเซลล์บนสะพานหรือเนิน เพื่อให้ผู้ขับขี่รถแต่ละคนใช้ความระมัดระวังยิ่งขึ้น
3.จุดบอดทางแยก ไม่ว่าจะเป็น 3 แยก หรือ 4 แยกก็ตาม โดยเฉพาะตามทางแยกที่มีการสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้าง จนบดบังทัศนวิสัยการมองเห็น อีกทั้งยังไม่มีกระจกโค้งจราจร จุดบอดนี้ก็มีสิทธิทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน วิธีแก้คือ คุณต้องค่อย ๆ เดินรถออกไปจากทางแยกอย่างระมัดระวัง สังเกตไฟจราจร ดูรถคันอื่น ๆ ที่อยู่ในแยกด้วยว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้การเดินรถเข้าสู่ทางแยกปลอดภัยยิ่งขึ้น
4.จุดบอดวงเวียน ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้ว ในวงเวียนจะมีจุดอับสายตาอยู่ที่ทางเข้าวงเวียนแต่ละด้าน ทำให้บางครั้งผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็นว่าในขณะนั้นมีผู้เข้าวงเวียนมาหรือไม่ สำหรับผู้ที่ตัดสินใจเร็ว รีบเข้าวงเวียนเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถคันอื่น ๆ ในวงเวียนได้ วิธีแก้คือ เมื่อจะเข้าวงเวียน คุณต้องหยุดรถก่อนเสมอ เพื่อรอดูสถานการณ์ และรอให้รถในวงเวียนไปหมดก่อน จึงค่อยขับเข้าวงเวียนอย่างระมัดระวังต่อไป
5.จุดบอดทางรถไฟ เป็นจุดบอดอย่างหนึ่งที่ใครหลายคนมักพลาด โดยเฉพาะตามถนนตัดทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น อาจไม่ใช่จุดบอดชนิดที่ว่าทำให้มองไม่เห็น แต่ก็เป็นจุดที่ผู้ขับขี่รถหลายคนมักไม่ระมัดระวัง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อย ๆ วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ เมื่อมาถึงทางรถไฟ คุณต้องหยุดเพื่อดูสภาพเส้นทางก่อน และบริเวณทางตัดรถไฟ ต้องมีไม้กระดกอัตโนมัติไว้สำหรับป้องกันไม่ให้รถวิ่งผ่านทางตัดในขณะที่รถไฟกำลังมาเสมอ
6.จุดบอดป้ายโฆษณา ถนนบางเส้น ตามธรรมชาติของถนนแล้วไม่มีจุดบอดในตัวของมันเอง แต่กลับมีผู้นำป้ายโฆษณา หรือป้ายต่าง ๆ มาติดตั้ง จนทำให้เกิดจุดบอดขึ้นมาเพราะป้ายโฆษณามากีดขวาง วิธีแก้ก็คือ เมื่อคุณจะขับผ่านจุดดังกล่าว คุณต้องใช้ความระมัดระวัง อย่ารีบตัดสินใจ
7.จุดบอดรถขนาดใหญ่ เวลาที่คุณขับรถอยู่หลังรถขนาดใหญ่ อย่างเช่น รถบรรทุก หรือรถตัก ด้วยความที่รถข้างหน้ามีขนาดใหญ่กว่า ทำให้รถคันหลังอย่างคุณมองไม่เห็นเลนซ้ายขวาได้ดีเท่าที่ควร วิธีแก้คือ คุณไม่ควรไปขับตามรถบรรทุกตั้งแต่แรก หากจำเป็นต้องขับตามจริง ๆ ควรเว้นระยะให้ห่างจากรถบรรทุกสัก 10 เมตร ให้พอมองเห็นทัศนวิสัยโดยรอบได้
8.จุดบอดกระจกมองหลัง มักเกิดกับรถยนต์ที่เจ้าของรถมักนำของไปวางซ้อนไว้ที่คอนโซลหลัง โดยไม่สนใจว่าตนจะไม่สามารถมองกระจกมองหลังได้ เพราะปกติใช้กระจกมองข้างเอา การทำเช่นนี้จะทำให้คุณไม่เห็นทัศนวิสัยได้ดีเท่าที่ควร ตามมาด้วยอุบัติเหตุจากการถูกชนท้าย ทางที่ดี ขอให้คุณเคลียร์กระจกมองหลังให้เรียบร้อย ปรับองศาให้พอเหมาะ เพื่อให้มองเห็นกระจกได้ดีกว่า
9.จุดบอดกระจกมองข้าง เนื่องจากกระจกมองข้างสามารถมองเห็นทัศนวิสัยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อพ้นจากพื้นที่ของกระจก คุณจะมองไม่เห็น และมีสิทธิ์ประเมินสถานการณ์ผิดได้ วิธีแก้ก็คือ คุณต้องปรับกระจกให้อยู่ในองศาเหมาะสมและปรับกระจกให้ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา อย่ากดกระจกมากเกินไป
10.จุดบอดเสาเอ จุดบอดสุดท้ายที่ร้านไทยจราจรจะขอกล่าวถึง คือจุดบอดที่ทุกคนคงเห็นอยู่แล้ว เสาเอ ด้วยความที่เสาเอของรถถูกออกแบบให้มีความโค้งไปกับรูปทรงของรถ บางครั้งเสานี้กลับเป็นตัวการบดบังทัศนวิสัยของคุณเอง วิธีแก้ทำได้ง่ายมาก แค่อย่าปรับเบาะให้สูงเกินไป อย่างน้อยที่สุดระยะห่างระหว่างศีรษะกับเพดานรถต้องอยู่ที่ 6 นิ้วขึ้นไป เท่านี้ก็ไม่มีจุดบอดเสาเอมาบดบังให้รำคาญใจแล้ว
อุปกรณ์จราจรหลายอย่าง เช่น กระจกโค้งจราจร หรือป้ายจราจร จะสามารถช่วยป้องกันปัญหาจุดบอดต่าง ๆ ได้ส่วนหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ผู้ขับขี่ยังคงต้องฝึกฝนทักษะและเป็นคนช่างสังเกต รวมทั้งระมัดระวังจุดบอดต่าง ๆ ตามที่แนะนำไปข้างต้นให้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดเวลาเดินทาง
Block "content-bottom" not found