5 เหตุผล จป. มีความสำคัญต่อองค์กรอย่างไร

งาน จป. เป็นงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งเป็นตำแหน่งหนึ่งที่สำคัญต่อการขบวนการขับเคลื่อนและพัฒนามาตรฐานการผลิตของหน่วยงานในสายอุตสาหกรรม และส่งผลต่อภาพรวมในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ

ทั้งนี้ การทำงานหน้าที่ จป. จะเกิดผลดีต่อองค์กร 5 ด้าน ซึ่งร้านไทยจราจรได้รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว กล่าวคือ

  1. จป. เป็นผู้ตรวจสอบและเสนอแนะให้เจ้าของธุรกิจ ทราบความเป็นไปของสถานการณ์ภายในโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านต่าง ๆ ที่สามารถเกิดได้ในรายวัน รวมทั้งเรื่องข่าวสารอัพเดตมาตรฐานทางอุตสาหกรรมการผลิตแบบใหม่ ๆ ที่เป็นสากล เช่น ระบบ ISO ต่าง ๆ ที่บริษัทห้างร้านที่มีการผลิตสินค้าเอง ต้องใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบ กระบวนการผลิตต้นจนจบ จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์

ทั้งนี้ จป. ยังเป็นผู้ประสานกับหน่วยงานภายนอก สำหรับการตรวจสอบรับรองมาตรฐาน ของโรงงาน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย และเป็นการการันตีคุณภาพของสินค้า ซึ่งสำคัญต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และเกิดอำนาจการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้นได้

  1. จป. เป็นผู้สอดส่อง ดูแลตรวจตราความเสี่ยงในการทำงาน ตั้งแต่ชุดการแต่งกายที่ต้อง

สวมอุปกรณ์การป้องกันสารพิษ สารเคมี เช่น หน้ากาก แว่นตานิรภัย เอี๊ยมกันน้ำ หรือหากทำงานในพื้นที่เสี่ยงต่อการมีสิ่งของหล่นจากที่สูง ก็ต้องสวมหมวกนิรภัย ฯลฯ ทั้งนี้ จป. ต้องตรวจสอบ การมีป้ายเตือน ที่จำเป็นในแต่ละจุด สำหรับกระตุ้นเตือนการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังต้องตรวจตราความชำรุดทรุดโทรมของอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ทั้งภายในโรงงานและบริเวณโดยรอบโรงงาน ไม่ว่าจะป้ายไฟฉุกเฉิน ป้ายตั้งถังดับเพลิง รวมถึงความเสียหายตามอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เช่น การแตกร้าวของกระจกโค้งจราจร ที่ติดตั้งตามมุมอับหรือจุดที่ทัศนวิสัยไม่ดี การหลุดลอกเสียหายของแถบสะท้อนแสงที่พื้น ที่ช่วยให้ระวังพื้นต่างระดับ เป็นต้น เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันอุบัติภัยอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ จป. ต้องเป็นผู้ทำการประสานกับผู้บริหารในการหาซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพมาทดแทนรุ่นที่หมดอายุหรือชำรุด ทั้งยังต้องศึกษาอุปกรณ์ความปลอดภัยรุ่นใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัยและสะดวกในการใช้มากขึ้นอยู่เสมอ

  1. จป. เป็นผู้ที่ต้องติดตามเทรนด์ต่าง ๆ ตลอดจนการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในข้อกฎหมาย ที่มีการบังคับใช้ในอนาคต โดยเฉพาะในแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับวงการธุรกิจ ซึ่งส่วนผลกระทบทั้งตรงและทางอ้อมต่อกิจการ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสมัยใหม่ มักมีวิสัยทัศน์กว้างไกลและเปิดโอกาสให้ จป. ได้แสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ โดยให้ทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพอื่น ๆ เช่น ฝ่ายผลิต ฝ่ายวิศวกรรม ฝ่ายควบคุมคุณภาพ ฯลฯ ในการปรับภูมิทัศน์ และการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติม ทั้งภายในและรอบโรงงาน เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการทำงาน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงาน โดยไม่ละทิ้งด้านความปลอดภัยและต้องไม่ขัดกับข้อกำหนดกฎหมาย

  1. จป. ต้องทำสถิติรายงาน ดังที่เห็นบน ป้ายสถิติความปลอดภัย ไม่ว่าด้านจำนวนอุบัติเหตุ การขาดงาน การติดตามพนักงานที่เจ็บป่วย เพราะอาจเกี่ยวข้องกับสาเหตุจากการทำงาน เช่น การสูดดมแก๊สที่มีโทษต่อร่างกาย การถูกประกายไฟทำลายสุขภาพนัยน์ตา หรือความเครียดจัดจากการทำงานที่มีความกดดันสูง เป็นต้น

ทั้งนี้ จป. จะทำการบันทึกและรายงานในที่ประชุม เพื่อเสนอแนะและหาหนทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดโดยไว ซึ่ง จป. นับว่าเป็นผู้หนึ่งที่สามารถเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติงาน และได้สำรวจสถานการณ์ความเป็นไปที่หน้างานทุกวัน

นอกจากนี้ จป. ยังต้องเป็นแกนนำในการจัดอบรมพนักงาน ถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัย ในการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง รวมถึงการต้องจำลองสถานการณ์เพื่อซักซ้อมการรับมือด้านความปลอดภัยตามที่กฎหมายระบุไว้เป็นขั้นต่ำ เพื่อไม่ทำให้ตื่นตกใจเกินไปหากเจอสถานการณ์จริง และสร้างความเคยชินในการแก้ปัญหา เช่น ไฟไหม้ แก๊สระเบิด สารเคมีรั่วไหล เป็นต้น

  1. จป. ต้องสร้างสรรค์การนำเสนอต่าง ๆ ในการจัดอบรมให้มีทั้งด้านความรู้และความสนุกสนานเพลิดเพลิน ให้กับพนักงานในบริษัทหรือผู้ปฏิบัติการในการอบรม เพื่อให้ได้รับความร่วมมือ สามารถจดจำและปฏิบัติตามมากขึ้น ทั้งนี้ จป. ต้องหมั่นอัพเดตข่าวสารใหม่ ๆ ให้แก่พนักงาน เพื่อสร้างความตระหนักและใส่ใจด้านความปลอดภัย และกระตุ้นจิตสำนึกว่าต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล ตักเตือนกันและกันได้ 

โดยให้คิดว่า “กันไว้ ดีกว่าแก้” และเอาเป้าหมายด้านความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง แม้จะต้องเพิ่มขั้นตอนปฏิบัติงานบางอย่าง หรือมีจุดตรวจต่าง ๆ มากขึ้น แต่ก็เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ เพื่อลดข้อขัดแย้ง หรือความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ทำงาน และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับธุรกิจ ซึ่งผลต่อการอยู่รอดทางธุรกิจและการจ้างงานในอนาคตด้วยเช่นกัน

จะเห็นได้ว่าทั้ง 5 เหตุผลที่กล่าวมา งาน จป. ไม่ใช่งานที่ต้องทำตาม routine ด้าน document หรืองานเอกสารตรวจสอบข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ยังต้องมีการตรวจสอบตามไซต์งานจริง ไปอยู่ท่ามกลางพนักงานเพื่อดูขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อหาปัญหาหรือจุดบกพร่อง และหาทางออกสำหรับแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ และเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางของเศรษฐกิจ-สังคม นโยบายทางการค้า-ภาษี และทางกฎหมายอื่น ๆ ในอนาคตด้วย

ร้านไทยจราจรขอให้กำลังใจกับผู้ที่ทำงาน จป. ทุกท่าน ให้ยึดมั่นในเป้าหมาย คือ ความปลอดภัยของผู้ทำงานที่ต้องมาควบคู่กับประสิทธิภาพในการทำงานอย่างสูงสุด เพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว ในสภาวะเศรษฐกิจสังคมที่มีการแข่งขันสูงเช่นปัจจุบัน สอบถามข้อมูลสินค้าเพื่อความปลอดภัยและการจราจรได้ที่ www.trafficthai.com

Block "content-bottom" not found