5 มาตรฐาน ระยะห่างการติดตั้งยางชะลอความเร็ว ติดตั้งอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่

5 มาตรฐาน ระยะห่างการติดตั้งยางชะลอความเร็ว ติดตั้งอย่างไรเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่

มาตรฐานระยะห่างการติดตั้งยางชะลอความเร็ว

ยางชะลอความเร็ว (Speed Bump) ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยลดความเร็วของยานพาหนะและเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น บริเวณหน้าโรงเรียน เขตชุมชน ลานจอดรถ และพื้นที่ทางแยก การติดตั้งยางชะลอความเร็วไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพของวัสดุเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นไปตาม มาตรฐานระยะห่างการติดตั้ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อผู้ใช้ถนนทุกคน

1. มาตรฐานระยะห่างระหว่างยางชะลอความเร็ว

การกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานและพื้นที่ โดยทั่วไปมีข้อกำหนดดังนี้:

  • ระยะห่างระหว่างยางชะลอความเร็วในจุดเดียวกัน
    • แนะนำให้ติดตั้งแต่ละชิ้นของยางชะลอความเร็วให้เรียงชิดกันโดยไม่ให้เกิดช่องว่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ล้อของยานพาหนะตกลงในช่องและสร้างอันตราย
  • ระยะห่างระหว่างยางชะลอความเร็วสองชุด
    • หากติดตั้งยางชะลอความเร็วเป็นหลายชุดในถนนเส้นเดียวกัน ควรกำหนดระยะห่างระหว่างชุดที่ 20-30 เมตร (หรือขึ้นอยู่กับความเร็วจำกัดในพื้นที่) เพื่อให้ผู้ขับขี่มีเวลาชะลอความเร็วระหว่างชุด

2. ความสูงและความยาวของยางชะลอความเร็ว

มาตรฐานของยางชะลอความเร็วเองก็ส่งผลต่อการติดตั้ง:

  • ความสูงควรอยู่ที่ 5-7 เซนติเมตร สำหรับการใช้งานในพื้นที่ชุมชนหรือโรงเรียน
  • ความยาวควรอยู่ที่ 30-50 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถลดความเร็วได้อย่างราบรื่น

3. พื้นที่และความเร็วจำกัด

  • ถนนในชุมชน: ระยะห่างควรอยู่ที่ 20-25 เมตร และความเร็วจำกัดไม่เกิน 30 กม./ชม.
  • ลานจอดรถ: ติดตั้งยางชะลอความเร็วใกล้กับทางเข้า-ออกลานจอดรถ โดยมีระยะห่างประมาณ 10-15 เมตร
  • ทางเข้าโรงเรียน: ระยะห่างระหว่างยางชะลอความเร็วควรอยู่ที่ 15-20 เมตร พร้อมป้ายเตือนล่วงหน้า

4. การติดตั้งยางชะลอความเร็วตามมาตรฐาน

  • ควรติดตั้งบนพื้นถนนที่เรียบและสะอาด โดยใช้พุกและสกรูยึดให้แน่น เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัว
  • ใช้ยางชะลอความเร็วที่มีแถบสะท้อนแสงหรือสีเหลือง-ดำ เพื่อเพิ่มการมองเห็นในเวลากลางคืน
  • ติดตั้งป้ายเตือนล่วงหน้าให้ชัดเจนในระยะ 10-50 เมตร ก่อนถึงยางชะลอความเร็ว

5. ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรติดตั้งยางชะลอความเร็วในพื้นที่ที่รถยนต์จำเป็นต้องใช้ความเร็ว เช่น ถนนสายหลัก
  • หลีกเลี่ยงการติดตั้งในบริเวณทางโค้ง เพราะอาจทำให้ผู้ขับขี่เสียการทรงตัว

การติดตั้งยางชะลอความเร็วอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานระยะห่างจะช่วยลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ยางชะลอความเร็วคุณภาพสูงและติดตั้งโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *