การใช้งานคลังสินค้านั้นจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์และผู้คนเข้ามาทำงานมากมาย เกิดเป็นความวุ่นวายสับสน เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกใช้ในการจัดเก็บสินค้าและขนส่งสินค้าเข้าออกตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีการบริหารงานจราจรภายในคลังสินค้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำงานทั้งในส่วนของรถขนส่ง ผู้ปฏิบัติงาน และการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางร้านไทยจราจรขอแนะนำวิธีในการบริหารระบบการจราจรภายในคลังสินค้าตามรายละเอียดต่อไปนี้
1.การกำหนดพื้นที่ส่วนต่าง ๆ การใช้งานพื้นที่คลังสินค้ามักประกอบด้วย 3 องค์ประกอบสำคัญได้แก่สินค้า รถขนส่ง และผู้ปฏิบัติงาน จึงควรกำหนดพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของคลังสินค้าให้ชัดเจน บริเวณใดใช้จัดวางสินค้าก็ควรกำหนดให้ชัดเจน การแยกพื้นที่ระหว่างพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่จะต้องเฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้สินค้าไม่ได้รับความเสียหายจากการเคลื่อนไหวตลอดเวลาของรถขนส่งและผู้ปฏิบัติงาน เมื่อแยกพื้นที่แล้วจะทำให้ง่ายต่อการวางมาตรการควบคุมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ช่วยให้การสัญจรภายในคลังสินค้าสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานมากขึ้น
2.การควบคุมเส้นทางสัญจร เมื่อแยกระหว่างพื้นที่การจัดเก็บสินค้า และพื้นที่ที่ใช้ในการสัญจรของรถและผู้ปฏิบัติงานแล้ว ควรติดอุปกรณ์เพื่อควบคุมเส้นทางสัญจรให้เป็นระบบระเบียบ มีการแยกแบ่งเส้นทางสำหรับรถวิ่งเข้าและวิ่งออกให้แยกจากกัน รวมถึงช่องทางที่ผู้ปฏิบัติงานใช้สัญจรเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โดยการควบคุมเส้นทางสัญจรต่าง ๆ เหล่านี้สามารถทำได้ไม่ยากด้วยการติดตั้งอุปกรณ์อย่างเสาเหล็ก / สแตนเลสกั้นรถ ที่เอาไว้ป้องกันไม่ให้รถขนส่งก่อความเสียหายกับสินค้า หรือการใช้เทปติดถนนสะท้อนแสงเพื่อกำหนดเส้นทางการเดินรถและผู้ปฏิบัติงานให้เป็นระเบียบ เกิดความคล่องตัวในระหว่างการปฏิบัติงานได้ดี
3.การแบ่งระยะเวลาการทำงาน ในกรณีที่สินค้าจัดเก็บในคลังสินค้ามีปริมาณมาก หรือมีสินค้าหลากหลายประเภท ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาและพื้นที่ในการจัดเก็บครั้งละมาก ๆ ก็จำเป็นที่จะต้องกำหนดระยะเวลาในการทำงานช่วงต่าง ๆ เอาไว้ อย่างช่วงเช้าเป็นช่วงของการนำสินค้าเข้าคลัง แต่ช่วงบ่ายจะถูกใช้ในการขนสินค้าออกจากคลัง เป็นการจัดระเบียบเพื่อลดความแออัดในการสัญจรภายในคลังสินค้า ทำให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น อาจบังคับการเดินรถเส้นทางเดียวในช่วงเวลาที่กำหนดด้วยการติดตั้งที่บังคับเดินรถทางเดียว หรือราวกั้นทางเข้าออก เป็นต้น
4.การหาทางเพิ่มพื้นที่การทำงาน การจัดเก็บสินค้าสามารถเพิ่มพื้นที่ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นด้วยการจัดระเบียบการจัดเก็บ การแยกประเภทสินค้าชนิดต่าง ๆ ออกจากกันเพื่อให้ค้นหาได้ง่ายมากขึ้น และยังเป็นการประหยัดพื้นที่ ไม่ให้มีพื้นที่ส่วนเกินมากเกินไปได้ บางครั้งอาจเพิ่มพื้นที่ในแนวตั้ง โดยการนำชั้นวางสินค้ามาใช้ แต่ต้องคำนึงถึงขนาดของชั้นวางที่เหมาะสมกับสินค้าและขนาดพื้นที่ของคลังสินค้า เพราะบางครั้งชั้นวางสินค้าอาจต้องเคลื่อนย้ายโดยใช้รถยกช่วยจึงต้องเผื่อระยะห่างระหว่างชั้นวางสินค้าให้เพียงพอกับการทำงานของรถยก ซึ่งในปัจจุบันยังมีลักษณะของชั้นวางที่สามารถเคลื่อนที่ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ได้อีกด้วย
5.การควบคุมให้เกิดการสัญจรเป็นแนวตรง การที่พื้นที่ภายในคลังสินค้ามีมุม จุดโค้งหรือจุดเลี้ยวมากมายนอกจากจะทำให้การสัญจรภายในคลังสินค้าไม่สะดวกแล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่จัดเก็บได้เป็นอย่างมาก ทั้งยังส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานจากมุมอับสายตาในบริเวณทางโค้งได้อีกด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องวางผังเส้นทางการสัญจรภายในคลังสินค้าให้เป็นแนวตรงมากที่สุด อาจมีลักษณะเป็นเส้นตรง หรือทรงรูปตัวแอล ตามแนวของโครงสร้างอาคารได้ ยิ่งเมื่อควบคุมเส้นทางการวิ่งระหว่างรถเข้าและออกให้ชัดเจนก็จะยิ่งช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการสัญจรภายในพื้นที่คลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.การติดเสียงสัญญาณเตือนที่รถขนสินค้า การใช้รถขนส่งภายในพื้นที่คลังสินค้านั้นเกิดขึ้นเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และเป็นการผ่อนแรงที่ต้องใช้ยกสิ่งของได้ดี ยิ่งในกรณีที่ของมีน้ำหนักมาก การนำรถยกมาช่วยก็จะเป็นการลดจำนวนคนงาน และเพิ่มคามปลอดภัยในการทำงานของพนักงานคลังสินค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อต้องการให้รถถอยหลังในขณะที่มีการเคลื่อนไหวของรถคันอื่น ๆ หรือผู้ที่สัญจรอยู่ภายในบริเวณพื้นที่คลังสินค้าได้ จึงควรมีการติดตั้งไฟหมุน ไฟไซเรนหรือสัญญาณเสียงเตือนให้ผู้ร่วมใช้งานคลังสินค้าในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น
คลังสินค้าคือรูปแบบอาคารที่มีลักษณะการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง มักเป็นโครงสร้างอาคารที่มีขนาดใหญ่มากกว่าอาคารที่อยู่อาศัยแบบทั่วไป การใช้งานภายในอาคารมักประกอบไปด้วยผู้คน อุปกรณ์ยกสินค้า และรถยกสินค้าจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีการควบคุมและบริหารให้ดีย่อมเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน และสินค้าที่จัดเก็บได้ กลายเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ซึ่งหากปล่อยเอาไว้ไม่จัดการบริหารให้ดีก็อาจกลายเป็นปัญหาไม่สามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าทันเวลาที่กำหนดได้ ทางร้านไทยจราจรจึงขอแนะนำผู้ที่ประกอบธุรกิจคลังสินค้า หรือธุรกิจประเภทต่าง ๆ ที่มีคลังสินค้าเป็นของตนเองให้ดูแลจัดระเบียบการจราจรต่าง ๆ ให้ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่จัดเก็บสินค้าได้อย่างคุ้มค่า มีความคล่องตัวในการค้นหาและจัดส่งสินค้า พร้อม ๆ ไปกับความปลอดภัยในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานคลังสินค้าเป็นอย่างมาก
Block "content-bottom" not found