จากการเก็บสถิติอุบัติเหตุจราจรช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลปีใหม่ พบว่าประเทศไทยยังติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกที่มีเหตุการณ์ความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด คือเฉลี่ยวันละ 490 ครั้ง เสียชีวิต 57 ราย และบาดเจ็บ 512 คนในแต่ละวัน (จากสถิติระหว่าง พ.ศ.2558 – 2560)
ร้านไทยจราจร เล็งเห็นว่าเราทุกคนสามารถช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสำคัญ อย่างวันปีใหม่ ที่ควรเป็นวันแห่งการรื่นรมย์ได้ทั้งครอบครัว จึงขอนำเสนอ 5 วิธีการลดอุบัติภัย ในช่วงปีใหม่ เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทางบนท้องถนน
- ให้ความร่วมมือจุดด่านตรวจต่าง ๆ
หากท่านเป็นผู้ขับขี่และเดินทางในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เป็นประจำคงสังเกตได้ว่า มักมีจุดด่านตรวจเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารร่วม
ซึ่งท่านควรชะลอรถ เพื่อให้ความร่วมมือกับตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาฯจราจร ในการตรวจสอบใบขับขี่ เช็คสภาพรถ รวมถึงการตรวจแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านและบรรดาผู้ใช้เส้นทางถนนร่วมกัน
หากท่านสังเกตเห็น แนว กรวยจราจร ป้ายไฟหยุดตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ในชุด เสื้อสะท้อนแสง หรือ เสื้อจราจร ก็สามารถเตรียมแตะเบรก ชะลอความเร็วได้ตั้งแต่ระยะ 200 เมตร เพื่อให้รถคันหลัง สามารถลดความเร็วและป้องกันการเกิดการชนท้าย จากการเปลี่ยนเลนหรือเบรกกะทันหันได้ด้วย
ทั้งนี้ หากท่านมีอาการอ่อนเพลีย หรือดื่มแอลกอฮอล์เลี้ยงปีใหม่มา ท่านควรสลับให้ผู้อื่นขับรถให้ หรือ ควรงีบพักที่จุดตรวจจนกว่าจะสร่างเมาหรือทุเลาความอ่อนเพลียก่อนการเดินทางจะดีที่สุด
- ตรวจสอบสภาพรถ พร้อมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ท้ายรถ
ท่านควรตรวจสอบความพร้อมของรถ ระบบเบรก หม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง เครื่องปัดน้ำฝน สาย Safety Belt ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมก่อนการเดินทางทุกครั้ง ไม่ว่าจะเดินทางระยะสั้นหรือเดินทางไกลข้ามจังหวัด
ทั้งนี้ ควรมีอุปกรณ์จราจรฉุกเฉิน เช่น กรวยจราจร และ ไฟกระพริบ หรือ หลอดไฟ LED เผื่อจำเป็นต้องหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น หม้อน้ำระเบิด รถชน ฯลฯ ทำให้จำเป็นต้องจอดรถข้างทาง
ซึ่งหากท่านได้วาง กรวยจราจร ห่างจากท้ายรถไปไม่ต่ำกว่า 200 เมตร พร้อมกับติด ไฟกระพริบ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือช่วงที่ทัศนะวิสัยไม่ดี จะช่วยป้องกันเหตุการณ์รถอื่นชนท้าย จนกลายเป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้
- ปฏิบัติตนตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ความไม่ประมาทว่าเป็นเส้นทางที่คุ้นเคยเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสถิติอุบัติเหตุที่ผ่านมา พบว่าเกิดจากคนที่อาศัยในพื้นที่ ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น ขับรถย้อนศร ขับรถเร็วกว่ากำหนด ขับฝ่าไฟแดง ฯลฯ ทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งตนเองและผู้ขับขี่ท่านอื่น ถึงขั้นสูญเสียอวัยวะ ต้องพิการ หรือเสียชีวิต ตามที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนือง ๆ
การขับขี่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ควรเคร่งครัดในการลดความเร็วลงให้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากท่านจำเป็นต้องใช้พื้นที่ถนนร่วมกับรถคันอื่นในสภาพที่แออัดกว่าปกติ ทั้งนี้ มีการคำนวณว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีรถวิ่งบนถนนทั่วไปเพิ่มขึ้นปริมาณ 7 – 10 เปอร์เซ็นต์ และมีรถวิ่งบนทางด่วนเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับวันปกติ
- ไม่ละเลยอุปกรณ์นิรภัย
หมวกกันน็อคที่มีมาตรฐาน และ เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ เป็นสิ่งที่ท่านไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นระบบที่ผ่านการทดสอบแล้วว่า สามารถ “ป้องกันความเสียหาย” ต่ออวัยวะสำคัญ เช่น สมอง นัยน์ตา (กรณีหมวกกันน็อค) รวมถึง หัวใจ ปอด ซี่โครง กระดูกคอ และกระดูกสันหลัง (กรณีเข็มขัดนิรภัย) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ท่านไม่ควรคิดว่า ภัยจะไม่เกิดกับเส้นทางเพียง 100 -200 เมตร เพราะที่จริงแล้ว คนที่ประสบเหตุการณ์รุนแรง หลายคนก็เคยคิดเช่นนี้มาก่อน และไม่ได้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวใด ๆ เมื่อเกิดความสูญเสียกับชีวิตและทรัพย์สิน จึงเป็นความเสียหายที่รุนแรง และไม่อาจย้อนเวลามาแก้ไขได้
- ปฏิบัติตามหลัก “1ร 2ส 3ข 4ม”
หลัก “1ร 2ส 3ข 4ม” เป็นตัวอย่างที่จดจำง่าย ที่ทางการออกแคมเปญมาในปีใหม่ล่าสุด 2560 เพื่อให้ผู้ขับขี่รถและจักรยานยนต์ เตือนตัวเองรวมถึงสมาชิกในครอบครัว ญาติและเพื่อนฝูง ต้องช่วยกันสำรวจและเตือนซึ่งกันและกัน ไม่ให้ประมาท จนอาจเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้
โดยหลัก “1ร 2ส 3ข 4ม” ประกอบด้วย
1ร – ห้ามขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ เร็วเกินกำหนด
2ส – ไม่ขับขี่ย้อนศร และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร
3ข – ต้องพกใบขับขี่ ไม่แซงในที่คับขัน เส้นทึบหรือจุดเสี่ยง
4ม – ไม่เมาแอลกอฮอล์ขณะขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่ปลอดภัย และไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
นอกจาก 5 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น ร้านไทยจราจร สนับสนุนให้ท่านใช้แอพพลิเคชั่น “Police I lert U” ซึ่งเป็น app แจ้งเหตุด่วน หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ และวันหยุดยาว ผ่านทางโทรศัพท์มือถือส่งถึงมือตำรวจได้ตลอด 24 ชม. เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ ในการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายสำหรับคนไทย
โดยหลักการ “Police I lert U” จะเป็นการส่งข้อมูลผู้แจ้ง รูปถ่าย ช่วงเวลาเกิดเหตุการณ์ เข้าไปยัง “War room” เพื่อให้ตำรวจได้รับข้อมูลด้วยความรวดเร็วและชัดเจน ไม่ต้องรอสายโทรศัพท์อย่างการโทร.191 และก็ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย
หากท่านต้องการเสริมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวท่าน รวมถึงบุคคลใกล้ชิดที่รักและห่วงใย ด้วยอุปกรณ์งานจราจรต่าง ๆ ท่านสามารถสอบถามและดูข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ที่เรารับประกันคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล ใช้งานได้สมบูรณ์แบบอย่างมีประสิทธิภาพยาวนาน ในราคาคุ้มค่าที่ท่านจะประทับใจ ที่ ร้านไทยจราจร www.trafficthai.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน
Block "content-bottom" not found
