คุณกำลังถูกลูกน้อง..โกงค่าน้ำมันอยู่หรือเปล่า?? ..เจ้าของกิจการต้องอ่าน

       ปัญหาที่สำคัญขององค์กรหรือกิจการใด ๆ ก็ตามที่จำเป็นต้องแก้ไขโดย นั่นคือ ความไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งเราในฐานะเจ้าของกิจการต้องเอาใจใส่ในการดูแลลูกน้องของเราให้ดี โดยต้องมีการตรวจสอบและมาตรการการลงโทษที่ชัดเจนและรุนแรงพอ เพื่อป้องกันการไม่ซื่อสัตย์ของลูกน้อง

     การโกงค่าน้ำมันก็เป็นปัญหาที่สำคัญส่วนหนึ่งขององค์กรหรือกิจการงานต่าง ๆ ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตเพิ่มด้วย ผลเสียหากไม่แก้ไขในระยะยาว ก็อาจจะให้องค์กรหรือกิจการต่าง ๆ ขาดทุนได้หากไม่มีการแก้ไขปัญหาการโกงค่าน้ำมันอย่างแท้จริง จะส่งผลให้องค์กรประสบปัญหาขาดทุนได้ในที่สุด

บทความนี้ ทางร้านไทยจราจร จึงขอแนะนำถึงวิธีสังเกตว่าลูกน้องของคุณว่ามีการโกงค่าน้ำมันอยู่หรือเปล่า มีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้ 

1.สังเกตจากพฤติกรรม

     สิ่งที่เราในฐานะของเจ้าของกิจการคือการให้ความไว้วางใจกับลูกน้อง แม้ว่าเราอาจจะคิดว่าเขากำลังโกงค่าน้ำมันอยู่ แต่ขอให้เราทำตัวของเราปกติ อย่าให้เขารู้ว่าเรากำลังจ้องจับผิดเขาอยู่ โดยเราสามารถสังเกตจากพฤติกรรมได้ดังต่อนี้

หากลูกน้องของคุณทำผิดหรือไม่ซื่อสัตย์ต่อคุณ เขาจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิมดังนี้

• มีความลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่นิ่ง 

เมื่อเราทักทายหรือสอบถามเรื่องต่าง ๆ ก็จะดูผิดปกติ ไม่กล้าสบสายตาหรือพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการพูดคุย ไม่ชอบอยู่กับที่ทำงาน เมื่อเราอยู่ด้วย

• น้ำเสียงเปลี่ยนไป

    เมื่อเราทักทายหรือสอบถามเรื่องต่าง ๆ หากสังเกตดี ๆ จะรู้สึกว่าน้ำเสียงผิดปกติไปจากเดิม เช่นระดับเสียงสูงขึ้น หรือพูดจาติด ๆ ขัด ๆ แปลกไป

• มีอาการทางร่างกายที่ผิดปกติ

      คนที่ทำผิดหรือมีความไม่ซื่อสัตย์กับคุณ มักจะมีอาการทางร่างกายที่ผิดปกติ เช่น มีเหงื่อออกมาก ตัวสั่น หน้าแดง กลืนน้ำลาย คล้าย ๆ มีการปิดบังบางอย่างอยู่ 

แต่ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแค่การสังเกตเบื้องต้นเท่านั้น เราไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าลูกน้องของเราโกงค่าน้ำมันของเราหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นพฤติกรรมการแสดงออกที่ผิดปกติอันมาจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น อาการเจ็บป่วยไม่สบาย ก็เป็นไปได้ 

ดังนั้นเราต้องมีการตรวจสอบจากหลักฐาน เพื่อเกิดความชัดเจนและสามารถเอาผิดได้

2.ตรวจสอบจากหลักฐาน

การตรวจสอบจากหลักฐานจะชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องของเรา โดยเราสามารถพิจารณาได้จากหลักฐานต่าง ๆ ดังนี้

• ใบเสร็จค่าน้ำมัน

      ตามปกติแล้วเมื่อไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันจะได้รับใบเสร็จมาด้วย ให้เราสังเกตจากจำนวนราคา จำนวนลิตรของน้ำมันและชื่อที่อยู่ของปั๊มน้ำมัน ที่ลูกน้องของเรานำมาเบิกกับฝ่ายการเงินของเรา สังเกตดูว่าข้อมูลถูกต้องไหม มีลายเซ็นผู้รับเงินเป็นความจริงหรือไม่ หรือมีร่องรอยการเขียนขึ้นมาเอง จากการเขียนขึ้นมาเองของลูกน้องของเราหรือไม่

• ตรวจสอบจากระยะทางการขับรถ

      เป็นวิธีการตรวจสอบจากระยะทางการขับรถมีความสัมพันธ์กับค่ามันที่เบิกหรือไม่ ให้เราใช้สังเกตจากตัวเลขบอกระยะทางการวิ่งของรถยนต์ที่อยู่บนหน้าปัดของคนขับรถ โดยเราต้องบันทึกระยะทางก่อนรถวิ่งไว้และนำมาเทียบกับระยะทางเมื่อรถยนต์มาถึง ทำให้เราทราบระยะทางของการขับรถและนำไปคำนวณอัตราสิ้นเปลืองของการใช้น้ำมัน 1 ลิตรนั้น รถสามารถวิ่งได้ระยะทางกี่กิโลเมตร เราก็จะทราบค่าน้ำมันที่แท้จริงที่ควรจะเบิก เทียบกับการที่ลูกน้องของเรานำใบเสร็จมาเบิกค่าน้ำมันว่าตรงตามความเป็นจริงหรือไม่

     สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นวิธีสังเกตว่าลูกน้องของคุณว่ามีการโกงค่าน้ำมันอยู่หรือเปล่า เป็นเพียงการสังเกตยังไม่ได้เป็นสรุปความผิด ทั้งนี้เราควรจะให้ความไว้วางใจกับลูกน้องของเรา จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าลูกน้องของเรามีความไม่ซื่อสัตย์และโกงค่าน้ำมันขององค์กรของเราจริง 

     เราควรจะเรียกมาสอบสวนเพื่อให้โอกาสเขาในการสารภาพผิด เพื่อให้โอกาส อาจจะภาคทัณฑ์ไว้ก่อนในกรณีที่ทำผิดครั้งแรก หากมีการทำผิดซ้ำหรือไม่มีท่าทีที่จะสำนึกผิดและยังคงทำผิดต่อไปอีก เราก็จะต้องมีมาตรการขั้นรุนแรง คือ การไล่ออกจากงาน และมีการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องให้จ่ายคืนค่าเสียหายจากสิ่งที่ลูกน้องของเราได้โกงค่าน้ำมันไป

     สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดได้กับทุกองค์กรและกิจการงานใดก็ตามในเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ของลูกน้องหรือพนักงานที่ทุจริตโกงค่าน้ำมัน ซึ่งไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น ทางที่ดีเราควรที่จะสร้างระบบขึ้นมาป้องกันการทุจริตในการโกงค่าน้ำมันดีกว่าการที่จะมาแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพราะลูกน้องหรือพนักงานเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญขององค์กร ไม่อยากที่จะสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไปเพราะการทำผิดเพียงเพราะความโลภเล็ก ๆ น้อย ๆ

     ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของกิจการหรือหัวหน้าองค์กร เราควรจะให้ความไว้วางใจดำเนินชีวิตให้เป็นแบบอย่างโดยเฉพาะความซื่อสัตย์ในการประกอบอาชีพ อาจจะติด ป้ายเตือน ไว้ประกอบข้าง ๆ ป้ายสถิติความปลอดภัย ในที่ทำงาน เพื่อเป็นการป้องปรามไว้ด้วย เชื่อว่าหากเจ้านายเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว เป็นการยากที่ลูกน้องจะทำผิดและสิ่งที่สำคัญคือความไว้วางใจให้โอกาสสำหรับผู้ที่ทำผิด การให้อภัยก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนที่ทำผิดกลับใจและไม่ทำผิดอีก สิ่งเหล่านี้เป็นบรรทัดฐานที่องค์กรและกิจการงานต่าง ๆ ควรที่จะรักษาไว้ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรได้กระทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริต องค์กรและกิจการงานนั้นก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปอย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้เป็นข้อแนะนำซึ่งเป็นความปรารถนาดีจาก ร้านไทยจราจรผู้จำหน่ายป้ายสถิติความปลอดภัยและอุปกรณ์จราจรทุกชนิด ที่ต้องการเห็นองค์กรและกิจการต่าง ๆ มีความเจริญรุ่งเรือง พนักงานก็มีความสุขในการทำงาน