การสอบใบขับขี่ในปัจจุบันจะประกอบด้วยกัน 2 ส่วน ได้แก่ การสอบข้อเขียน และการสอบภาคปฏิบัติ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการสอบที่แตกต่างกัน การสอบข้อเขียนก็เพื่อทดสอบว่าผู้สอบเข้าใจในกฎระเบียบการจราจรมากน้อยเพียงใด โดยจะมีการแบ่งข้อสอบออกเป็นส่วน ๆ ได้แก่ กฎหมายป้ายเตือนต่าง ๆ รูปแบบการใช้รถยนต์ที่ถูกวิธี รูปแบบการขับขี่ที่ถูกต้องโดยสมมติเหตุการณ์บนท้องถนน ส่วนข้อสอบภาคปฏิบัตินั้นจะเน้นการขับขี่ของผู้สอบในรูปแบบเสมือนจริง ด้วยการจำลองสถานการณ์ที่ผู้ขับขี่จะต้องประสบในขณะขับขี่บนท้องถนนจริง ๆ ทั้งการจอดข้างทาง การถอยเข้าที่จอดรถ และการขับขี่รถยนต์ผ่านแยกในลักษณะต่าง ๆ และตามกฎหมายการจราจรรูปแบบใหม่กำหนดให้ผู้สอบจะต้องผ่านข้อสอบข้อเขียนไม่น้อยกว่า 90% หรือคิดเป็นจำนวน 45 ข้อจากข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ ดังนั้นการเตรียมพร้อมก่อนเข้าสอบจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดย ร้านไทยจราจร ขอแนะนำข้อสอบที่พบว่าผู้สอบมักจะตอบผิดนั้นมีดังต่อไปนี้
1.เอกสารที่ต้องใช้ในการขอใบขับขี่
เป็นข้อสอบที่ทดสอบถึงความรู้ความเข้าใจในกฎหมายการจราจรขั้นพื้นฐานที่ผู้สอบโดยมากคาดไม่ถึงและตอบไม่ถูกต้อง เพราะมัวแต่เตรียมข้อสอบแต่เรื่องกฎหมายควบคุมการจราจรเพียงอย่างเดียว แต่ลืมรายละเอียดพื้นฐานอย่างเรื่องวิธีการขออนุญาตใบขับขี่ไป ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องนั้นก็คือบัตรประชาชน (ฉบับจริง) สำเนาบัตรประชาชน และใบรับรองแพทย์ (อายุต้องไม่เกิน 1 เดือน)
2.การต่ออายุ หรือขอทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือชำรุด
หากใบขออนุญาตของผู้ขับขี่หมดอายุแล้ว หรือเกิดการชำรุดสูญหายไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม ผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการขอใหม่ภายในระยะเวลาใด เป็นคำถามที่ต้องการให้ผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติได้ตามในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับข้อสอบ ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องคือ 15 วัน
3.ความหมายที่มาจากลักษณะการใช้สัญลักษณ์ของพื้นถนนเป็นเส้นทึบ คู่กับเส้นแบ่งเลนที่เว้นระยะมีความหมายว่าอย่างไร
ในบางกรณีการใช้ เทปติดถนนกันลื่น – สะท้อนแสง ตีเส้นแบ่งเลนอาจมีการใช้เส้นคู่กัน 2 แบบคือเส้นที่เว้นช่องว่างเป็นปกติ กับเส้นที่ตีเป็นเส้นทึบ ซึ่งเครื่องหมายบนท้องถนนเช่นนี้จะสื่อความหมายว่ารถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านที่ตีเส้นทึบจะไม่สามารถย้ายเลน หรือเคลื่อนที่ผ่านมายังอีกเลนที่เป็นเส้นแบ่งปกติได้ การใช้งานในลักษณะดังกล่าวอาจเป็นการเตือนเนื่องจากเส้นทางมีลักษณะเป็นทางโค้ง หรือเส้นทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหากมีการเปลี่ยนเลนของฝั่งที่ถูกห้ามเอาไว้
4.ความหมายของป้ายบังคับ
รูปแบบหนึ่งที่สำคัญของป้ายควบคุมการจราจรคือป้ายบังคับ เป็นป้ายที่ติดตั้งเพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรจึงจะถูกต้องและเกิดความปลอดภัย ซึ่งข้อสอบหนึ่งที่ผู้สอบมักไม่ทราบความหมายคือป้ายบังคับรูปรถเมล์ บนพื้นสีน้ำเงิน ซึ่งป้ายลักษณะนี้นั้นหมายความว่าผู้ขับขี่รถยนต์ห้ามแซงล้ำเข้าไปในเลนของรถประจำทางเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า หรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
5.ความหมายของป้ายสัญลักษณ์เลข 3 ที่อยู่ภายในรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด
เนื่องจากป้ายบังคับชนิดนี้อาจพบเห็นได้น้อยบนท้องถนน จึงทำให้ผู้สอบใบขับขี่โดยมากไม่ทราบความหมายของป้ายที่ถูกต้อง ซึ่งความหมายของป้ายนี้คือหากรถยนต์ที่สัญจรผ่านมามีคนนั่งไม่น้อยกว่า 3 คน จึงจะขับผ่านช่องทางสัญจรที่ติดตั้งป้ายนี้เอาไว้ได้
6.ความหมายของป้ายเตือนรูปรถเกลี่ยพื้นถนน
ป้ายจราจร ประเภทป้ายเตือนนั้นถูกใช้งานเพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในระหว่างการขับขี่รถยนต์ โดยป้ายสัญลักษณ์รูปรถเกลี่ยถนนสื่อความหมายให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วในการขับขี่ให้ลดลง
7.ความหมายของป้ายแนะนำ รูปเส้นขาว 2 เส้นที่ตีคู่ไปบรรจบกันตอนปลาย พร้อมเส้นขวางแนวนอน
สัญลักษณ์ของป้ายแนะนำดังกล่าวคือป้ายแนะนำให้ให้ผู้ขับขี่ทราบว่าเส้นทางข้างหน้าเป็นเส้นทางด่วน ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเตรียมชำระค่าบริการเอาไว้ด้วย
8.ความหมายของรูปจำลองเหตุการณ์ในกรณีรถอยู่บริเวณทางแยก
โดยเหตุการณ์จำลองที่พบว่ามักตอบผิดกันเป็นประจำคือ รูปแบบการจราจรของรถที่อยู่ข้างซ้ายของสี่แยก และรถในสี่แยกคันอื่น ๆ อยู่ในสภาพพร้อมออกตัวผ่านแยก ซึ่งตามกฎหมายกำหนดว่าจะต้องให้ทางรถคันที่อยู่ทางซ้ายมือก่อน
9.ข้อปฏิบัติหากผู้ขับขี่พบสัญญาณไฟจราจรสีเหลือง
เป็นข้อสอบที่ผู้สอบไม่ทราบและยังมักพบการกระทำผิดบนท้องถนนอยู่เสมอด้วย โดยหากพบสัญญาณไฟจราจรสีเหลือง ผู้ขับขี่จะต้องชะลอความเร็ว เพื่อให้หยุดรถก่อนถึงเส้นทึบเมื่อสัญญาณไฟแดงปรากฏนั่นเอง
10.ข้อปฏิบัติเมื่อพบคนกำลังรอข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย
คำตอบของข้อสอบนี้คือการแตะเบรกให้สัญญาณรถคันหลังทราบว่าผู้ขับต้องการหยุดรถ และหยุดให้ทางคนข้ามก่อนถึงทางเดินคนข้ามถนน
หากผู้สอบใบขับขี่มีการเตรียมพร้อมและทำความเข้าใจในข้อกำหนดกฎหมายการจราจรมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เชื่อได้ว่าทุก ๆ ท่านจะต้องผ่านการสอบข้อเขียนได้อย่างแน่นอน และทาง ร้านไทยจราจร ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้ความเข้าใจที่ได้รับจากการสอบจะทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะทุก ๆ ท่านสามารถปฏิบัติได้ตามกฎ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่รถยนต์เองทั้งนั้น
Block "content-bottom" not found
Block "catalog-trafficfence" not found