นักขับขี่รู้ไว้ สัญญาณไฟจราจร และไฟกระพริบจากรถคันอื่นมีความหมายอย่างไร เพื่อการขับปลอดภัยหายห่วง

                                                สัญญาณไฟจราจร บนท้องถนน ถือเป็นสิ่งที่นักขับขี่ทุกคนต้องรู้จักรวมถึงยังต้องเข้าใจความหมาย เพราะมีส่วนอย่างยิ่งในการช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนมีระเบียบและปลอดภัย แต่เพราะไฟจราจรไม่ได้ทำหน้าที่บอกให้รถหยุดหรือบอกให้รถเคลื่อนที่เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่แจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้อง ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนจึงจำเป็นต้องทราบความหมายสัญญานไฟบนท้องถนนรวมถึงสัญญาณไฟกระพริบจากรถคันอื่น เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย

 

ที่มาของสัญญาณไฟจราจรและความหมายของสีต่าง ๆ 

 

 

        รู้หรือไม่ว่าสัญญาณไฟบนท้องถนนเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1868 ที่ประเทศอังกฤษ เหตุผลของการทำไฟจราจรขึ้นมาก็เพราะว่าการใช้รถม้ารวมถึงการสัญจรของผู้คนบนท้องถนนมีความพลุกพล่าน จึงเกิดการคิดค้นไฟจราจรขึ้นมาเพื่อให้การใช้รถใช้ถนนอย่างเป็นระเบียบ อีกทั้งยังเป็น วิธีลดอุบัติเหตุ โดยสัญญาณไฟถูกปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในสถานที่นั้น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังประกอบด้วย 3 สีที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีเขียว และยังเป็นมาตรฐานสากลที่ถูกใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้ 

      ไฟจราจรที่ประกอบด้วยสีแดง สีเหลือง และสีเขียว ถือเป็นอุปกรณ์ช่วยส่งสัญญาณแก่ผู้ขับขี่ยานพาหนะ รวมถึงคนเดินถนนเพื่อเพิ่มความระมัดระวังและเพิ่มความปลอดภัย โดยไฟจราจรแต่ละสีทำหน้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. สีแดง

     ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว สีแดงคือสีที่เห็นชัดในระยะไกล และยังเป็นสีที่สะท้อนถึงความเร่งด่วน ความอันตราย ผู้พบเห็นจึงสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว จึงถูกเลือกใช้เป็นสีให้สัญญาณรถหยุดหรือห้ามไม่ให้ขับผ่าน 

 

 

  1. สีเหลือง

     สำหรับสีเหลืองจะเป็นสีที่สะดุดตารองลงมาจากสีแดง สีเหลืองจึงเป็นสัญญาณแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังมากขึ้น หากพบเห็นบริเวณทางแยกจะเป็นสัญญาณเตือนให้เตรียมหยุดรถ แต่หากพบเห็นบริเวณทางรถไฟจะแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังเป็นพิเศษ 

  1. สีเขียว

     นอกจากสีเขียวจะเป็นสีที่มองแล้วสบายตาและเป็นสีธรรมชาติ สีเขียวยังเป็นสีที่สะท้อนถึงความปลอดภัยจึงถูกเลือกเป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่ออกรถ อีกทั้งยังเป็นโทนสีที่มองเห็นระยะใกล้ จึงไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแจ้งเตือน แต่ใช้เป็นสัญญาณปล่อยรถเท่านั้น

 

 

ประโยชน์ของไฟจราจร

  • ลดอุบัติเหตุ

     ประโยชน์สำคัญที่สุดของการติดตั้งไฟจราจร คือ เป็นตัวช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะสัญญาณไฟบนท้องถนนเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันและเพิ่มความระมัดระวัง ยิ่งหากติดตั้งในตำแหน่งที่สังเกตเห็นชัดและหมั่นตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เสมอ ก็จะยิ่งช่วยลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุลงได้ นี่จึงเป็น วิธีลดอุบัติเหตุ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ภาครัฐที่ควรให้ความสำคัญเท่านั้น แต่หน่วยงานเอกชนก็สามารถนำไปติดตั้งในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ๆ ได้เช่นกัน

 

 

  • เพิ่มความเป็นระเบียบวินัยบนท้องถนน

     จุดเริ่มต้นของการคิดค้นสัญญาณไฟจราจรก็เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบวินัยแก่คนใช้รถม้า รวมถึงคนเดินถนน จนกลายเป็นมาตรฐานสากลที่เมื่อใครเห็นสัญญาณจะเข้าใจตรงกันว่าสัญญาณไฟแต่ละสีมีความหมายว่าอย่างไร และเมื่อทุกคนเข้าใจตรงกัน ความเป็นระเบียบวินัยจะเพิ่มมากขึ้น อุบัติเหตุจึงน้อยลงตามไปด้วย อีกทั้งยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยลดการทำผิดกฎจราจร ลดการถูกจับและปรับ ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

  • ใช้รถใช้ถนนได้อย่างมั่นใจ

     หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร นอกจากทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายแล้ว ยังทำให้ผู้ขับขี่ขาดความมั่นใจ เพราะไม่แน่ใจว่าควรตัดสินใจอย่างไรดี แต่การมีสัญญาณไฟจะทำให้ผู้ขับขี่ตัดสินใจง่ายขึ้น สามารถหยุดรถหรือทำให้รถเคลื่อนตัวได้อย่างไม่ลังเล และไม่เพียงแต่ผู้ขับขี่เท่านั้นที่สามารถขับรถได้อย่างไม่กังวล สำหรับคนเดินถนนเองก็เช่นกัน เพราะเมื่อเห็นสัญญาณไฟชัดเจนก็สามารถตัดสินใจได้ว่าต้องหยุดหรือต้องเดินข้ามถนน ทำให้มั่นใจ อุ่นใจทุกครั้งที่ใช้เส้นทางสัญจร

 

 

เช็กให้ชัวร์! ไฟกระพริบ จากสัญญาณไฟจราจรมีความหมายอย่างไรบ้าง

     หากเอ่ยถึงสัญญาณไฟจราจร เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงสัญญาณไฟบริเวณทางแยกเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว สัญญาณไฟยังถูกติดตั้งในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย และยังไม่ได้ทำหน้าที่ให้สัญญาณรถหยุดหรือให้รถเคลื่อนที่เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เตือน โดยสังเกตได้จากการให้สัญญาณไฟกระพริบนั่นเอง โดยมีหลายลักษณะที่น่ารู้ไว้ ดังนี้

  • สัญญาณไฟกระพริบสีแดง

     นับเป็นสัญญาณไฟกระพริบที่พบเห็นบ่อย ๆ ทำหน้าที่แจ้งเตือน ส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง และยังเป็นสัญลักษณ์บอกว่าเส้นทางเดินรถของคุณไม่ใช่ทางเอก ซึ่งหากสัญญาณไฟกระพริบสีแดงหันหน้าให้กับทิศทางใด รถที่อยู่ในทิศทางนั้นต้องหยุดรถชั่วขณะ จากนั้นให้มองอย่างถี่ถ้วนว่าไม่มีรถขับสวนมา เมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว จึงสามารถขับขี่ต่อไปได้ 

 

 

  • สัญญาณไฟกระพริบสีเหลือง

     อีกหนึ่งสัญญาณไฟกระพริบที่พบเห็นได้บ่อย เช่น บริเวณทางรถไฟ ทางแยกที่ไม่พลุกพล่านมากนัก สำหรับสัญญาณ ไฟกระพริบ สีเหลือง ทำหน้าที่แจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง หากสัญญาณไฟกระพริบสีเหลืองหันหน้าให้กับทิศทางใด รถที่อยู่ในทิศทางนั้นต้องชะลอความเร็วโดยไม่ต้องหยุดรถ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีรถขับสวนมา ก็สามารถขับขี่ต่อไปได้ 

  • สัญญาณไฟสีแดง เครื่องหมายกากบาท

     ไม่เพียงแต่สัญญาณไฟกระพริบเท่านั้น เพราะบางครั้งผู้ขับขี่อาจพบเห็นสัญญาณไฟสีแดงเป็นรูปกากบาท ซึ่งหากเจอสัญญาณไฟชนิดนี้ ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะทำหน้าที่เตือนว่าพื้นที่ข้างหน้าเป็นพื้นที่ห้ามเข้า หากฝ่าฝืนอาจทำให้เกิดอันตรายได้

 

 

ไฟกระพริบจากรถคันอื่นมีความหมายอย่างไร

     นอกจากสัญญาณจากไฟจราจรและ เครื่องหมายจราจร ที่ทำหน้าที่แจ้งเตือนและให้ข้อมูลแก่ผู้ขับขี่แล้ว สัญญาณไฟจากรถคันอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเพื่อนร่วมทางบางคนอาจต้องการแจ้งเตือนบางอย่าง ซึ่งสัญญาณไฟกระพริบจากรถคันอื่น ๆ มีความหมายแตกต่างกันออกไป ดังนี้ 

  • กระพริบไฟสูง

     สัญญาณการกระพริบไฟสูงให้กับรถที่กำลังขับสวนมา นับเป็นการแจ้งเตือนที่พบเห็นได้บ่อยบนท้องถนน พบได้บ่อยในกรณีรถทางตรงให้สัญญาณกระพริบไฟสูงก่อนถึงทางกลับรถ เพื่อส่งสัญญาณแก่รถที่กำลังกลับรถว่าอย่าเพิ่งออกมา เนื่องจากรถทางตรงมาด้วยความเร็วนั่นเอง

  • เปิดไฟสูงขณะขับสวนทาง

     เมื่อเห็นว่ารถที่ขับสวนทางเปิดไฟสูงค้างไว้ให้ โดยเฉพาะหากเป็นรถประจำทางหรือรถบรรทุก ให้ทราบว่านี่คือสัญญาณเตือนว่าเส้นทางข้างหน้าที่คุณกำลังขับไปนั้นเกิดอุบัติเหตุหรือมีด่านตรวจ การจราจรข้างหน้าจึงอาจติดขัด

 

 

  • เปิดไฟฉุกเฉินกะทันหันระหว่างขับขี่

     ปกติการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน จะเปิดเมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือเปิดในขณะรถหยุด แต่หากพบว่ามีการเปิดไฟฉุกเฉินในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ ให้ทราบว่านี่คือสัญญาณเตือนว่าข้างหน้าอาจเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน รถคันที่ขับตามหลังมาจึงควรชะลอความเร็วหรือหยุดรถ

  • รถบรรทุกเปิดไฟสูงเพื่อส่องทาง

     การขับขี่เส้นทางต่างจังหวัดตอนกลางคืน นอกจากต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษแล้ว ยังต้องสังเกตสิ่งรอบข้างเสมอ โดยเฉพาะการให้สัญญาณไฟจากรถบรรทุก โดยหากขับตามรถบรรทุกและต้องการแซงด้านขวา แน่นอนว่าต้องเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา โดยรถบรรทุกบางคันเมื่อเห็นอย่างนั้นจะเปิดไฟสูงค้างไว้ โดยมีเหตุผลเพื่อส่องทางให้กับรถคันที่ต้องการแซง เนื่องจากเส้นทางต่างจังหวัดมักเปลี่ยวและค่อนข้างมืด

 

 

         เพราะ สัญญาณไฟจราจร มีส่วนอย่างมากในการทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนขับขี่อย่างเป็นระเบียบ ปลอดภัย และเข้าใจความหมายสัญญาณไฟในทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนที่กำลังมองหาสัญญาณไฟเพื่อติดตั้งบนท้องถนนหรือบริเวณจุดที่ต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกสินค้าไฟจราจรจากร้านไทยจราจร ร้านจำหน่ายอุปกรณ์จราจรและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 10 ปี สินค้าทุกชิ้นเป็นสินค้ามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน คัดสรรมาแล้วทั่วโลก เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของอุปกรณ์ได้มาตรฐาน พร้อมด้วยทีมงานมากประสบการณ์ที่พร้อมมอบคำแนะนำ นอกจากพร้อมให้คำปรึกษาแล้ว ยังมีผู้เชี่ยวชาญพร้อมไปดูหน้างานจริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น

 

ที่มาข้อมูล :