พื้นที่คลังสินค้าคือพื้นที่ที่เกิดความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ที่จัดเก็บเอาไว้ในพื้นที่คลังสินค้า บุคลากรที่ทำงานอยู่ภายในคลังสินค้า และยวดยานพาหนะที่จำเป็นต้องใช้ในการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่าง ๆ เหล่านั้น กลายเป็นระบบการสัญจรในพื้นที่อันจำกัดที่จำเป็นต้องอาศัยการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไร้ซึ่งพื้นที่สิ้นเปลือง สามารถขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ เหล่านั้นออกมาได้ง่าย และรวดเร็ว รวมไปถึงการจัดการเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ที่ปฏิบัติงานภายในพื้นที่คลังสินค้าทุก ๆ คนอีกด้วย ซึ่งวิธีในการบริหารคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพนั้น มีวิธีที่ ร้านไทยจราจร อยากจะขอแนะนำตามรายละเอียดต่อไปนี้
1. การกำหนดพื้นที่การจัดเก็บให้ชัดเจน หลายครั้งที่การจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ในพื้นที่คลังสินค้านั้นมีขนาดและลักษณะของสิ่งของที่แตกต่างกันไป ทำให้ต้องมีการควบคุมพื้นที่ในการจัดเก็บเฉพาะให้เหมาะสมกับสิ่งของชนิดนั้น ๆ อย่างกรณีเครื่องแก้วจะไม่สามารถซ้อนกล่องเครื่องแก้วหลาย ๆ ชั้นได้ หรือการจัดเก็บอาหารที่จะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิเป็นพิเศษ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้สามารถเตรียมพื้นที่การจัดเก็บได้เพียงพอจึงควรกำหนดพื้นที่การจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้เอาไว้ให้ดีก่อนใช้งาน เพื่อให้มีพื้นที่ที่เพียงพอ ขนาดเหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในระหว่างการจัดเก็บ รวมถึงพื้นที่สำหรับการสัญจรของรถขนส่งที่จะต้องเพียงพอเพื่อลดโอกาสเฉี่ยวชนจนสิ่งของที่จัดเก็บเอาไว้ภายในคลังสินค้าเสียหายได้
2. การกำหนดเส้นทางสัญจรภายในพื้นที่คลังสินค้า การสัญจรภายในคลังสินค้าระหว่างบุคลากรและรถขนส่งสินค้าควรมีการแบ่งแยกพื้นที่ที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติงาน โดยอาจใช้ เทปสะท้อนแสง ติดเอาไว้ที่พื้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยขนาดเส้นทางสัญจรเหล่านี้ควรมีขนาดที่เพียงพอเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในระหว่างการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ภายในพื้นที่คลังสินค้า มีการกำหนดเส้นทางเพื่อป้องกันไม่ให้รถวิ่งสวนทางกันจนเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะบริเวณทางแยก และทางเข้าออกที่มีจุดอับสายตาอยู่ หากมีเส้นทางสัญจรที่จะต้องใช้ร่วมกัน ควรมีการให้ไฟสัญญาณเพื่อเตือนให้ผู้ปฏิบัติงานทุก ๆ คนเพิ่มความระมัดระวังตัว และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการปฏิบัติงาน
3. การกำหนดวิธีการทำงานให้ชัดเจน วิธีการทำงานที่ถูกวิธีนอกจากจะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานแล้ว ยังช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ไม่จัดเรียงสินค้าในปริมาณที่มากเกินกว่าที่กำหนด จนทำให้สิ่งของที่จัดวางเอาไว้เสี่ยงต่อการหักโค่นลงมาได้ง่าย ทั้งยังรวมถึงการสวมอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็น อาทิเช่น หมวกนิรภัย หรือ เสื้อสะท้อนแสง เป็นต้น อันจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานปลอดภัย และอุ่นใจที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่ต้องกังวลกับความปลอดภัยของตนเอง นอกจากนี้วิธีการทำงานที่ดียังควรรวมถึงการควบคุมสินค้าเข้าก่อนและออกก่อนเอาไว้ด้วย เพื่อลดการสะสมของสิ่งของจนหมดอายุเอาไว้ด้วย
4. การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้า หนึ่งในประสิทธิภาพการบริหารงานคลังสินค้าคือการที่ยอดสิ่งของที่จัดเก็บในคลังสินค้าต้องตรงกับปริมาณสิ่งของที่จัดเก็บเอาไว้จริง ซึ่งหลายครั้งการบันทึกด้วยบุคลากรเพียงอย่างเดียวมักทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของตัวเลข ดังนั้นการนำระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงาน ทั้งวันที่นำสินค้าเข้าคลังสินค้า ปริมาณ และผู้ส่งมอบ ไปจนถึงวันที่นำสิ่งออกไป ปริมาณ และผู้ที่รับมอบ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบว่ามีสิ่งของใดหายไปหรือไม่ หรือเกิดความคลาดเคลื่อนในการส่งมอบหรือไม่ได้ทันที ช่วยให้การทำงานในคลังสินค้ารวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น
5. การทดสอบประสิทธิภาพการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบการทำงานภายในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ควรมีการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยการตรวจสอบยอดคงเหลือของสิ่งของเปรียบเทียบกับที่ได้ทำการบันทึกเอาไว้ว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ หากมีความคลาดเคลื่อนต้องพิจารณาว่าความคลาดเคลื่อนดังกล่าวมีที่มาจากไหน เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขต่อไป ซึ่งการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานนั้นควรรวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือเครื่องจักรต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบแสงสว่างในกรณีฉุกเฉินอย่าง ไฟฉุกเฉิน หรือป้ายไฟทางออกฉุกเฉิน หรือระบบเตือนภัยในระหว่างการทำงานอย่าง ไฟเตือนรถโฟล์คลิฟท์ หรือเสียงสัญญาณต่าง ๆ ที่ได้มีการติดตั้งเอาไว้ เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริหารคลังสินค้าโดยตรง หากพบสิ่งใดชำรุดหรือมีปัญหาควรเร่งดำเนินการแก้ไขทันที
เมื่อปฏิบัติตามวิธีที่ได้กล่าวมาแล้ว เชื่อได้ว่าการบริหารคลังสินค้าของท่านจะต้องเกิดประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งความรวดเร็วในการปฏิบัติงานของพนักงานเนื่องจากทราบดีว่าจะค้นหาสิ่งของที่ต้องการที่ใด หรือหากมีสิ่งของส่งเข้ามาจะต้องนำไปจัดเก็บที่ใด สามารถทราบจำนวนของสิ่งของได้ทันทีที่มีการสั่งซื้อเข้ามา หรือยอดคงเหลือของสิ่งของใดจำเป็นต้องจัดหามาเพิ่มเพื่อเตรียมพร้อมต่อยอดคำสั่งซื้อที่จะตามเข้ามา อีกทั้งยังช่วยให้การปฏิบัติงานภายในพื้นที่คลังสินค้ามีความปลอดภัย พนักงานผู้ปฏิบัติงานมีขวัญและกำลังใจในการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยเสียเวลาระมัดระวังตัว หรือจะต้องมีการชดเชยค่าเสียหายครั้งละมาก ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการทำงานจนสิ่งของเสียหายหรือบุคลากรได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน รวมถึงการดูแลรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ เพื่อลดระยะเวลาการทำงานที่ต้องเสียไปในระหว่างการซ่อมแซม เพียงเท่านี้ ร้านไทยจราจร ก็เชื่อว่าการบริหารคลังสินค้าของท่านจะเกิดประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่
Block "content-bottom" not found