เนื่องจากการเกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ การเตรียมพร้อมรับมือด้วยการซ้อมอพยพหนีไฟเอาไว้จึงมีความสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้ผู้ที่ในอาคารทราบว่าจะต้องปฏิบัติตัวเช่นใดบ้างในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นมาจริง ๆ ก็จะสามารถรับมือได้ดีมากขึ้น เพิ่มโอกาสการรอดชีวิตได้มากขึ้น ลดโอกาสการเกิดความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้านไทยจราจร จึงอยากจะขอนำเสนอแผนการซ้อมหนีไฟ ให้เจ้าของอาคาร หรือผู้ที่อยู่ภายในอาคารทุกท่านได้ลองศึกษาดูเพื่อนำไปใช้เตรียมพร้อมรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินตามรายละเอียดต่อไปนี้
1. กำหนดวันที่จะทำการอพยพหนีไฟ เนื่องจากการฝึกซ้อมเพื่ออพยพหนีไฟนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้อยู่ภายในอาคารทุก ๆ คน ยิ่งเมื่อผู้เข้าร่วมฝึกซ้อมอพยพหนีไฟในปริมาณมาก หลายคน ก็อาจทำให้เกิดความตื่นตระหนกต่อเพื่อนบ้าน หรือผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดวันฝึกซ้อมหนีไฟเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ คนทราบล่วงหน้า
2. การกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อให้ผู้อพยพหนีไฟทุก ๆ คน สามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง การฝึกซ้อมหนีไฟแต่ละครั้งควรมีการกำหนดหน้าที่รับผิดชอบเอาไว้ล่วงหน้า ทั้งเพื่อการฝึกซ้อม และเพื่อใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติเมื่อเกิดไฟไหม้ขึ้นมาจริง ๆ โดยหน้าที่สำคัญที่ควรกำหนดได้แก่ ผู้นำการอพยพมักต้องมีสัญลักษณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการรวบรวมผู้คนอย่าง ธงโบกรถ เขียวแดง ซึ่งผู้มีหน้าที่อพยพผู้คนนี้ควรกำหนดอย่างน้อยชั้นละ 1 คน เพื่อความรวดเร็วในการอพยพออกนอกอาคาร ผู้มีหน้าที่แจ้งพนักงานดับเพลิง และพื้นที่ปลอดภัยที่จะใช้รวบรวมทุก ๆ คนในอาคารหลังการอพยพออกจากอาคาร ซึ่งควรเป็นพื้นที่เปิด ห่างไกลจากอาคาร และขนาดเพียงพอกับปริมาณผู้ที่อยู่ภายในอาคาร
3. การกำหนดสถานที่เกิดเหตุและรูปแบบของเหตุการณ์ แม้ว่าเหตุการณ์ไฟไหม้จะไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ในการซ้อมหนีไฟก็ควรกำหนดแผนจำลองสถานการณ์คร่าว ๆ เอาไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการทราบขั้นตอนที่ถูกต้องหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ ซึ่งการซ้อมแต่ละครั้งควรเปลี่ยนสถานการณ์จำลองใหม่ หมุนเวียนไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้ทุก ๆ คนภายในอาคารสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมาจริง ๆ การซ้อมหนีไฟที่ดีนอกจากจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ว่าจะเกิดไฟไหม้ที่ชั้นใดของอาคารแล้ว ยังควรมีการจำลองเหตุการณ์กรณีมีผู้ตกค้างและได้รับบาดเจ็บเอาไว้ด้วย เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการเคลื่อนย้าย และทีมค้นหาผู้สูญหายเอาไว้ให้พร้อม ผู้มีหน้าที่อพยพทราบหรือไม่ว่าภายในอาคารมี เปลสนาม เก็บไว้ที่ใดบ้างเพื่อนำมาใช้ได้อย่างทันท่วงที
4. การนับจำนวนผู้อพยพออกมายังจุดรวมพล เมื่อผู้คนอพยพมาถึงจุดรวมพลแล้ว ผู้นำอพยพแต่ละคนจะต้องนับจำนวนดูว่ามีใครสูญหายไปหรือไม่ หากเป็นทีมงานที่เตรียมไว้ล่วงหน้าว่าจะเป็นผู้สูญหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ก็ให้รีบส่งทีมอพยพเข้าไปทำการลำเลียงตัวแทนสถานการณ์ฉุกเฉินเหล่านั้นว่าสามารถอพยพได้สะดวกหรือไม่ มีอุปกรณ์ใดขาดหาย หรือชำรุดจนไม่สามารถนำมาใช้งานได้หรือไม่ เพื่อทำการแก้ไขและปรับปรุงจนสามารถใช้งานได้
5. การตรวจจับเวลาเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการอพยพและเคลื่อนย้าย เมื่อดำเนินการตามแผนการอพยพหนีไฟตามที่ได้กำหนดเอาไว้แล้ว ควรมีการตรวจจับเวลาที่สามารถอพยพผู้คนออกมาทั้งหมดเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการประเมินว่าหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมาจริง ๆ จะเกิดอันตรายต่อผู้ที่อยู่ภายในอาคารได้หรือไม่ มีผู้ที่ไม่ให้ความสำคัญกับสัญญาณ ไซเรนมือหมุน หรือไม่ หรือมีพื้นที่ใดที่ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณจนเกิดการตกค้างไม่ทำการอพยพบ้างหรือไม่ เพื่อสามารถแก้ไข หรือแจ้งให้ผู้อยู่ภายในอาคารทุก ๆ คนทราบเพื่อแก้ไขและปรับปรุงให้ตื่นตัวกับสถานการณ์ฉุกเฉินมากกว่าเดิม
6. ประสิทธิภาพในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายนอก การเกิดไฟไหม้จำเป็นต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกอย่างพนักงานดับเพลิง และรถพยาบาล ดังนั้นควรจำลองว่าเบอร์โทรศัพท์ติดต่อมีผู้ที่ทราบตามความจำเป็นหรือไม่ หรืออาจซ้อมร่วมกับหน่วยงานดังกล่าวเพื่อให้ทราบขั้นตอนการทำงานไปพร้อม ๆ กันก็สามารถประสานงานล่วงหน้าก่อนได้
การซ้อมหนีไฟเป็นข้อกำหนดที่อาคารขนาดใหญ่และมีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมากจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ทั้งอาคารที่เป็นอพาร์ทเม้นท์ โรงเรียน โรงงาน หรือสถานที่ทำงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อทุก ๆ คนที่อยู่ภายในอาคารนั้น ๆ ซึ่งนอกจากการฝึกซ้อมจะมีความสำคัญแล้ว การเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงดังของสัญญาณเตือนฉุกเฉิน ความสว่างของ ป้ายทางออกฉุกเฉิน การทำงานของแสงสว่างฉุกเฉินในกรณีที่เกิดไฟไหม้ ประสิทธิภาพการใช้งานถังดับเพลิง ประตูทางออกฉุกเฉินสามารถเปิดปิดได้ปกติหรือไม่ หรือมีสิ่งของวางกีดขวางเอาไว้หรือไม่ เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความปลอดภัยของทุก ๆ คน หากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาจริง ๆ หากพบข้อบกพร่องหรือปัญหาที่จุดการทำงานใดควรเร่งดำเนินการแก้ไขทันที เพราะสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไฟไหม้นั้นไม่สามารถคาดการณ์หรือรู้ได้ล่วงหน้า ดังนั้นจึงควรเตรียมการให้พร้อมอยู่เสมอ เลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เพียงเท่านี้ ร้านไทยจราจร ก็เชื่อมั่นว่าทุก ๆ คนที่อยู่ภายในอาคารต่าง ๆ จะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
