9 อาการของรถที่บอกว่ากำลังมีปัญหา..อาจต้องเสียตังค์

             รถยนต์คือยานพาหนะที่ช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งยังมีความรวดเร็ว สามารถเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ แต่รถยนต์ก็นับเป็นยานพาหนะที่มีราคาสูง การดูแลรักษาให้รถยนต์อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอจึงมีความจำเป็นและสำคัญมาก เจ้าของรถจึงควรติดตามลักษณะอาการของรถยนต์อย่างต่อเนื่อง หากรถมีลักษณะอาการที่ผิดปกติใด ๆ ก็ตาม ควรเร่งดำเนินการแก้ไขทันที เพื่อไม่ให้ปัญหาหรืออาการเสียของรถมีลักษณะที่บานปลาย โดย ร้านไทยจราจร ขอแนะนำลักษณะอาการของรถที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไข เพราะแสดงว่ารถของคุณกำลังประสบปัญหาตามรายละเอียดต่อไปนี้

1.ยางรถยนต์มีลมยางอ่อนผิดปกติ

         ยางรถยนต์คือส่วนประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่รถยนต์เป็นอย่างมาก และเป็นส่วนประกอบของรถที่ต้องเผชิญกับแรงเสียดสีต่าง ๆ ระหว่างยางรถยนต์กับพื้นผิวถนนตลอดระยะเวลาที่ทำการขับขี่ ยิ่งในระหว่างที่รถยนต์กำลังขับเคลื่อนผ่าน ยางชะลอความเร็ว ยางรถยนต์ก็ยิ่งมีโอกาสรับแรงกระแทกมากกว่าส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์ ซึ่งหากยางรถยนต์เส้นใดเส้นหนึ่งมีลักษณะที่ผิดปกติก็มักจะมีลมยางที่อ่อนหรือน้อยกว่ายางเส้นอื่น ๆ ได้ จึงควรนำเข้าไปตรวจสอบว่ายางมีลักษณะเสื่อมสภาพ หรือรั่วหรือไม่

2.สัญญาณเตือนบนหน้าปัด

     หน้าปัดรถในปัจจุบันนั้นจะมีการใส่สัญลักษณ์เตือนเอาไว้ เพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบว่าส่วนต่าง ๆ ของรถนั้นมีความผิดปกติหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณไฟแบตเตอรี่ สัญญาณน้ำมันเครื่อง สัญญาณเตือนความร้อน หรือสัญญาณเบรก ABS ซึ่งหากรถยนต์เกิดไฟเตือนเหล่านี้ เจ้าของรถควรเร่งนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบว่าไฟสัญญาณดังกล่าวเกิดจากปัญหาใด เพื่อดำเนินการแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะร้ายแรง หรือก่อให้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการขับขี่ได้

3.เสียงเบรกดังผิดปกติ

     ในระหว่างที่กำลังเหยียบเบรกนั้น มักมีเสียงดังเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากแรงเสียดสีระหว่างล้อรถกับพื้นผิวถนน แต่หากในระหว่างการเบรกเพื่อหยุดตาม สัญญาณไฟจราจร แล้วพบว่าเกิดเสียงดังที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงดังที่บริเวณด้านหน้า หรือด้านหลังของรถยนต์ อาจหมายถึงผ้าเบรกของรถยนต์เกิดปัญหา อาจเสื่อมสภาพ หรือชำรุดเสียหาย จึงควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและแก้ไขผ้าเบรกให้สามารถใช้งานได้ปกติ

4.รถยนต์มีอาการไถลเมื่อปล่อยพวงมาลัย

       ในระหว่างการขับขี่รถยนต์ หากเจ้าของรถทดลองปล่อยพวงมาลัยเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วพบว่ารถมีลักษณะลื่นไถลไปทางด้านซ้ายหรือขวา แสดงว่ายางรถยนต์เกิดปัญหา หรืออาจจะเป็นส่วนของเพลารถ หรือลูกหมาก หรือศูนย์ล้อ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมรถยนต์ของผู้ขับขี่ และควรดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย

5.รถยนต์มีกลิ่นเหม็นไหม้ในระหว่างการขับขี่

         ในระหว่างที่รถยนต์กำลังขับเคลื่อนมักเกิดแรงเสียดทานต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งแรงเสียดทานจากยางรถยนต์กับพื้นผิวถนน แรงสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์ส่วนต่าง ๆ ซึ่งหากรถยนต์มีลักษณะปกติก็จะเกิดเพียงเสียงและแรงสั่นสะเทือนเท่านั้น แต่หากเกิดกลิ่นเหม็นไหม้อาจแสดงถึงระบบไฟฟ้าที่ทำงานผิดปกติ เครื่องยนต์หรือลูกสูบเกิดการเผาผลาญแบบผิดปกติ ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขทันที

6.มีควันสีขาวจากท่อไอเสียรถยนต์

         ควันจากท่อไอเสียที่ดีนั้นไม่ควรมีสี เป็นการแสดงถึงระบบการเผาผลาญพลังงานที่ปกติ แต่หากกลายเป็นควันสีขาวแสดงว่าเครื่องยนต์มีลักษณะการทำงานที่ผิดปกติ ระบบเผาผลาญพลังงานไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

7.เกิดรอยน้ำหรือน้ำมันหยดออกมาในระหว่างจอดทิ้งเอาไว้

         การที่มีน้ำหรือน้ำมันหยดออกมาตลอดเวลาให้เจ้าของรถลองพิจารณาตรวจสอบก่อนว่ามาจากระบบแอร์ที่มีลักษณะควบแน่นในระหว่างการทำงานหรือไม่ หยดน้ำที่เกิดขึ้นนั้นจะใช้เวลาไม่นาน แต่หากเกิดขึ้นตลอดเวลาอาจหมายถึงหม้อไอน้ำ หรือถังน้ำมันบางถังเกิดการรั่วไหล ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขทันที

8.เครื่องยนต์มีอาการสะดุดในขณะที่เหยียบคันเร่ง

         หากรถยนต์ของท่านเกิดอาการสะดุดในระหว่างที่กำลังออกตัว หรือเร่งคันเร่งในขณะที่กำลังขับเคลื่อนผ่าน ที่กั้นที่จอดรถ แสดงว่าหัวเทียนของท่านกำลังมีปัญหา หรืออาจเป็นกล่องควบคุมระบบการทำงานของรถกำลังมีปัญหา หรือแม้แต่ระบบกรองเชื้อเพลิงชำรุด เจ้าของรถจึงควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อซ่อมและปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว

9.รถมีลักษณะเด้งหรือพวงมาลัยสั่นในขณะที่ความเร็วรถช้า ๆ

        ในขณะที่รถกำลังขับช้า ๆ แต่กลับรู้สึกว่ามีอาการเด้ง หรือสั่นที่ผิดปกติ อาจหมายถึงยางรถยนต์ หรือช่วงล่างของรถยนต์มีอาการที่ผิดปกติ เช่น ยางบวม หรือแก้มยางเสียหาย ยิ่งในช่วงที่ชะลอเพื่อหยุดตามสัญญาณเตือนของ เครื่องนับถอยหลังไฟจราจร เป็นอาการผิดปกติที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ จึงควรแก้ไขทันที

เมื่อเจ้าของรถต้องการให้รถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีสภาพที่ดีส่งผลให้เกิดความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่อยู่เสมอ เจ้าของรถควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ พร้อมรู้จักสังเกตอาการต่าง ๆ ของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นลมยาง สัญญาณไฟเตือน เสียงที่ผิดปกติ หรืออาการสั่นของเครื่องยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์จะอยู่ในสภาพที่ดีตลอดการใช้งาน หรือหากมีอาการที่ผิดปกติจะได้ทำการแก้ไขและประเมินวิธีการแก้ไขได้ทัน เพียงเท่านี้ ร้านไทยจราจร ก็เชื่อว่าเจ้าของรถทุก ๆ ท่านจะมีความปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินตลอดการเดินทางได้เป็นอย่างดี

 

Block "content-bottom" not found

Block "catalog-trafficfence" not found