ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

 การต่อรองราคา เป็นสิ่งที่เกิดได้เมื่อมีการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายจัดซื้อจะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการต่อรองนั้น จึงจำเป็นจะต้องศึกษาเทคนิคที่ถูกต้อง 

 ทั้งนี้ มีอยู่ 7 ประโยคที่ห้ามพูดในการระหว่างการต่อรองสินค้าที่ ร้านไทยจราจร ได้รวบรวมมาฝาก เพื่อให้ทุกท่านได้นำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

1.เทียบราคากับบริษัทอื่นแล้ว ที่อื่นถูกกว่า 

       การเปรียบเทียบราคาของสินค้าบริษัท a กับบริษัท b โดยกล่าวว่าสินค้าของบริษัทใดบริษัทหนึ่งมีราคาแพงเกินไป โดยที่คิดว่าการพูดแบบนี้ จะทำให้บริษัท a ลดราคาสินค้าให้ แม้ว่าแท้ที่จริงแล้ว บริษัท b อาจจะให้ราคาที่แพงกว่าเสียอีก การทำเช่นนี้ จะทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อกัน และทำให้บริษัท b อาจได้รับภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไปด้วย เนื่องจากมีความเสี่ยงที่บริษัทอื่นจะมองว่า บริษัท b อาจจะขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์ จึงลดราคาได้มากขนาดนั้น ซึ่งจะกระทบต่อการตั้งราคาของร้านอื่น

       ในขณะเดียวกัน บริษัท a ก็ต้องการหาข้อมูลไปยืนยันกับฝ่ายจัดซื้อว่าเหตุใดจึงไม่สามารถลดราคาได้อย่างนั้น เช่น สินค้าของร้าน a เป็นสินค้าแท้ สินค้าถูกลิขสิทธิ์ หรือว่ามีต้นทุนในการขนส่งจากต่างประเทศที่แพงกว่า เช่น อุปกรณ์จราจรของร้านเรา อย่าง กรวยจราจร เสาล้มลุกจราจร นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จึงมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าในประเทศอย่างแน่นอน

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

2.ช่วยลดราคาให้เท่ากับล็อตที่แล้ว

       เนื่องจากราคาสินค้าแต่ละล็อตจะมีต้นทุนมาไม่เท่ากันโดยเฉพาะถ้าเป็นสินค้าที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ย่อมมีค่าขนส่งและต้นทุนการผลิตที่ต่างกัน ตามอัตราค่าแลกเปลี่ยนทางการเงินและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ในระบบโลจิสติกส์ การขอลดราคาสินค้า เช่น ให้ลดรอบที่สองเท่ากับการสั่งรอบแรก จะไม่มีบริษัทใดการันตีได้ว่าจะทำเช่นนั้นได้เสมอไป

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

3.ของนำเข้ากับของในประเทศก็เหมือน ๆ กัน ขอที่ราคาถูก ๆ 

         การเลือกสินค้าที่ราคาถูกโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ เป็นสิ่งที่ทำให้ฝ่ายจัดซื้อเสี่ยงได้สินค้าที่คุณภาพต่ำกว่าที่ควร เพราะบางบริษัทสามารถผลิตสินค้าในประเทศที่แลดูใกล้เคียงสินค้าต่างประเทศ หรือทำเลียนแบบสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยซึ่งอาจจะมีวัตถุดิบที่แตกต่างกัน รวมถึงคุณภาพและประโยชน์ใช้สอยในระยะยาว ซึ่งจะมีผลต่อการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายด้วยอย่างแน่นอน

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

4.ทำไมราคาแพงจัง ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วกัน เท่านี้ก็ได้กำไรมากแล้ว

          การต่อรองราคาชนิดที่แทบจะไม่ให้เหลือต้นทุนให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้มีกำไรไปลงทุนหรือหมุนเป็นกระแสเงินหมุนเวียน จะเป็นสิ่งที่สร้างความลำบากใจมาก ทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างกันตั้งแต่ระดับเริ่มต้นของการจัดซื้อ ทางที่ดีจึงควรพิจารณาจากราคากลางของสินค้าสเปคเดียวกันที่มีในท้องตลาด โดยหากเป็นสินค้านำเข้าก็ต้องมีราคาสูงกว่า ตามมาตรฐานการผลิต เช่น อุปกรณ์จราจร ของร้านเรา เป็นการใช้สินค้าจากโรงงานมาตรฐานสูงในประเทศญี่ปุ่นที่มีการใช้ทั่วโลก เช่น เยอรมัน สหรัฐอเมริกา ฯลฯ เป็นการการันตีว่าลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจจากการใช้งานแน่นอน

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

5.ลดให้หน่อยแล้วกัน จะได้ดีลกันยาว ๆ 

          การจะซื้อสินค้ากันในระยะยาวหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย การขอให้ลดราคาให้มาก ๆ เพื่อคราวหน้าจะได้ดีลกันอีก จึงเป็นเรื่องไม่แน่นอน การลดราคา จึงควรดูจากยอดการสั่งซื้อแต่ละรอบบิล หรือยอดสะสมตามไตรมาส หรือหากเป็นลูกค้าเก่าก็ดูจากข้อมูลการออเดอร์ ที่หากเป็นลูกค้าชั้นดี ก็มีความเป็นไปได้ในประเด็นนี้สูง แต่หากเป็นลูกค้าใหม่ก็คงต้องให้สะสมประวัติการสั่งซื้อไปสักระยะก่อน

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

6.ต่อรองราคาแล้ว แต่สุดท้ายโปรเจคไม่ผ่านซื้อไม่ได้

          การต่อรองราคาจนกระทั่งได้ข้อสรุปแล้ว แต่หลังจากนั้น เกิดปัญหาในภายหลัง โดยอ้างว่ามีการยับยั้งโครงการซื้อขาย อย่างนี้จะสร้างความเสียหายแก่ทางบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าสินค้าอย่างมาก เนื่องจากหลังการตกลง ทางฝ่ายผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้ดำเนินการสั่งให้มีการผลิตให้เพียงพอกับการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าแล้ว และก็เผื่อให้มีสำรองในสต๊อกเพียงพอต่อการจำหน่ายแก่ลูกค้ารายอื่น ๆ อีกด้วยจึงเกิดปัญหาต่อสภาพคล่องทางการเงินได้ 

ห้ามพูด 7 ประโยคนี้!! ถ้าคุณกำลังต่อราคา!

7.แพงกว่าเมื่อหลายปีที่แล้วเยอะเลย มันดีกว่ากันเยอะไหม

        การเปรียบเทียบราคากับเมื่ออดีต เป็นการตีกรอบที่ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากเวลาที่ผ่านมา ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงของระดับของค่าเงิน ค่าเชื้อเพลิงในการขนส่ง โดยเฉพาะสินค้านำเข้า และต้นทุนในเรื่องของวัตถุดิบในการผลิตเช่น เมื่อก่อน จะนิยมใช้เป็นแผงกั้นถนนจำพวกเหล็ก

       ซึ่งจะเป็นสนิมได้แล้ว ก็มีอายุการใช้งานที่สั้น แต่ในปัจจุบันจะเป็น แผงกั้นจราจร หรือแผงกั้นสแตนเลส ซึ่งจะมีความสวยงามและคงทนมากกว่า ทั้งยังมีดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ลูกค้าเลือกได้เพื่อเสริมภาพลักษณ์องค์กร ดังนั้นควรดูที่วัตถุประสงค์ในการซื้อสินค้า ที่หากตอบโจทย์ได้หลายอย่างก็จะมีความคุ้มค่าในการลงทุนซื้อมากยิ่งขึ้น

        จาก 7 ประโยคที่ ร้านไทยจราจร ได้รวบรวมมาเป็นตัวอย่างนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่นำมาพูดในขณะต่อรองราคา เพื่อทำให้ได้สินค้าที่คุ้มค่าสมราคาและมีความทันสมัย ตอบโจทย์ในการใช้งานมากที่สุด

Block "content-bottom" not found

Block "catalog-trafficfence" not found