คนขับรถเที่ยวนอกต้องอ่าน 6 วิธีขับรถตอนหิมะตก ให้ปลอดภัย

สำหรับคนที่กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศยอดฮิต เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี หรือ ประเทศสหรัฐอเมริกา เชื่อว่ากิจกรรมหนึ่งที่หลายคนสนใจและอยากทำเมื่อไปถึง คือ การขับรถท่องเที่ยวในต่างประเทศ เหตุผลหลัก ๆ คือ อยากหาประสบการณ์แปลกใหม่ให้ชีวิต ไหน ๆ ก็ไปถึงที่โน่นแล้วก็อยากลองสักครั้ง ว่าจะให้ความรู้สึกต่างจากการขับรถท่องเที่ยวในประเทศไทยหรือไม่ และเพื่อทำให้ความฝันเป็นจริงหลายคนจึงพยายามดำเนินการเรื่องเอกสารให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ใบขับขี่สากล เอกสารที่ต้องเตรียมไปจากประเทศไทย เอกสารที่ต้องยื่นเมื่อออกจากประเทศไทย และเอกสารสำหรับยื่นที่ประเทศปลายทาง ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการหลายสัปดาห์ แต่เพื่อประสบการณ์แปลกใหม่ที่จะได้รับ ทำให้หลายคนอดทน พร้อมทั้งหาข้อมูลการเช่ารถ วางแผนการเดินทาง ข้อมูลโรงแรมที่พักระหว่างทาง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในระหว่างการขับรถท่องเที่ยว 

แต่เมื่อไปถึงหลายคนกลับล้มเลิกความตั้งใจในทันที สาเหตุหลัก ๆ มาจากไม่คุ้นเคยกับหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก แม้จะเตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่ถ้าตกลงมาหนักมากเกินไปก็ทำให้หลายคนชักไม่กล้าเพราะรับรู้มาว่าการขับรถตอนหิมะตกนั้นเป็นเรื่องยากพอสมควร นอกจากทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวยแล้ว ถนนยังมีความลื่นทำให้เป็นอุปสรรคในการขับรถ หากไม่ชำนาญก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ อย่างไรก็ตามเพื่อช่วยให้ความฝันของหลายคนให้เป็นจริง วันนี้ ร้านไทยจราจร มี 6 วิธีดี ๆ ในการขับรถตอนหิมะตกมาฝากกัน รับรองได้ว่าการขับรถตอนหิมะตกจะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป 

               1.ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบสภาพรถว่าพร้อมใช้งานหรือไม่ 

                      อย่างแรก คือ ควรเช็ดหิมะที่ปกคลุมตัวรถออกเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็น บริเวณหลังคา กระโปรงหลัง กระโปรงหน้า กันชน ไฟหน้า ไฟท้าย เพราะหากขับไปเรื่อย ๆ อาจทำให้หิมะไหลลงมาปิดกระจกหน้าทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นทาง และควรวอร์มเครื่องก่อนออกเดินทางเพื่อตรวจสอบระบบการทำงานต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเครื่องดับระหว่างทาง ที่สำคัญควรตรวจสอบปริมาณน้ำมันให้พร้อม เพราะการขับรถยนต์ในสภาพอากาศเย็นจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ จึงควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก่อนออกเดินทางและคำนวณล่วงหน้าว่าจะต้องแวะเติมน้ำมันตอนไหน นอกจากนี้ควรตรวจสอบการทำงานของไฟหน้า ไฟท้าย และที่ปัดน้ำฝน ว่าเป็นปกติดีหรือไม่ เพราะทั้งสามส่วน คือ ส่วนที่ต้องเปิดใช้งานอยู่ตลอดการเดินทาง

                2.เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถไว้อุ่นใจกว่า

                      การขับรถตอนหิมะตกอาจเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา ทั้งรถยนต์ดับระหว่างทาง หรือ ถนนปิดเนื่องจากหิมะตกหนัก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถเอาไว้เสมอ สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไว้เผื่อฉุกเฉิน เช่น ที่ขูดกระจก พลั่วตักหิมะ ถุงมือ เสื้อผ้าหนา ๆ สำหรับใส่ลงไปจัดการกับรถยนต์ อาหาร น้ำดื่ม โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล ยารักษาโรค และ ไฟฉาย LED ปรับ Zoom ได้ อุปกรณ์จำเป็นในช่วงเวลากลางคืน ที่มาพร้อมกล่องที่จะช่วยให้คุณเคลื่อนย้ายและเก็บไว้ในรถได้สะดวกขึ้น และหมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่เพราะมีถ่านชาร์จมาให้ด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นหากคุณต้องติดอยู่บนถนนเป็นเวลานาน นอกจากนี้ควรเตรียมอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือติดรถไว้ด้วย เช่น ไซเรนมือหมุน ชนิดพกพา อุปกรณ์กำเนิดเสียงแบบพกพาได้ ใช้ง่าย แค่ใช้มือหมุนและไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า หรือ กระบองไฟกระพริบ ที่มีให้เลือกมากว่า 5 สี ซึ่งทั้งสองอุปกรณ์จะช่วยให้เพื่อนร่วมทางหรือคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงหรือเห็นคุณได้ง่ายและเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้น 

               3.ขับขี่รถอย่างความระมัดระวัง

                     ในการขับรถขณะที่หิมะกำลังตกอยู่นั้น สิ่งแรกที่ควรมี คือ สติในการประคองรถไม่ให้เสียการทรงตัวพร้อมทั้งคำนึงอยู่เสมอว่าตอนนี้ตัวเองกำลังขับรถบนแผ่นน้ำแข็งที่สามารถทำให้รถลื่นไหลได้ตลอดเวลา ดังนั้นในการขับรถจึงไม่ควรใช้ความเร็วสูงเกินไป และหากไม่มั่นใจก็ไม่ควรเปลี่ยนความเร็วหรือเปลี่ยนเลนกะทันหันเพราะอาจทำให้รถเสียการควบคุม รวมถึงต้องระมัดระวังในบางบริเวณที่พื้นเป็นน้ำแข็ง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็น “BLACK ICE” ซึ่งจะมีความลื่นมากกว่าบริเวณอื่น ๆ 

               4.ขับรถให้ห่างจากคันหน้า

                       ควรขับรถให้ห่างจากคันหน้าอย่างน้อยสัก 2-3 เท่า เป็นการเผื่อระยะเบรกฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้รถของเราพุ่งไปชนท้ายของรถคันหน้า สาเหตุนั้นก็มาจากถนนที่ลื่นกว่าปกติและแน่นอนว่าเราไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศแบบนี้แน่นอน ดังนั้นการหยุดจึงต้องใช้เวลาและระยะทางพอสมควร อีกทั้งการหยุดรถกะทันหันจะทำได้ยากและอาจทำให้เกิดการลื่นไถลได้ 

              5.เปิดไฟหน้าตลอดทาง

                    การขับรถฝ่าหิมะต้องเปิดไฟหน้าเสมอ ถึงแม้ว่าจะขับรถในเวลากลางวันก็ตาม เหตุผลนั้นก็เพราะหิมะจะทำให้ทัศนวิสัยขุ่นมัว ไม่เอื้ออำนวยต่อการขับรถ แต่ถึงแม้จะเปิดไฟหน้าแล้ว ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถเพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวเองและเพื่อนร่วมทาง 

                6.จอดรถอย่างระมัดระวัง

                      แม้ว่าหิมะจะหยุดตกแล้ว แต่ก็ควรจอดรถอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เช่น รถไหล หรือ รถจมหิมะ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการจอดรถบริเวณพื้นที่ลาดชัน แต่หากจำเป็นต้องจอดก็ควรล็อกล้อรถด้วย ที่ล็อคล้อชนิดพกพา เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ไม่ควรจอดรถไว้ในที่โล่งแจ้งนานจนเกินไป แต่หากจำเป็นให้ยกที่ปัดน้ำแข็งขึ้นเพื่อป้องกันที่ปัดน้ำแข็งใช้งานไม่ได้เมื่อต้องการออกรถครั้งต่อไป

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าวิธีการขับรถเที่ยวต่างประเทศตอนหิมะตกทั้ง 6 วิธีจะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นเพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย แต่ ร้านไทยจราจร ขอแนะนำว่าควรขับรถอย่างระมัดระวังมากที่สุด และประคองสติอย่าตกใจหากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน หากหิมะตกมากเกินไปจนประคองรถไม่ไหว ควรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทางหรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง

Block "content-bottom" not found