ปัญหาอย่างหนึ่งของชุมชนเมืองทุกที่ก็คือเรื่องของรถติดและอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะกับการมุ่งแก้ไข ปัญหารถติด และการมองหา วิธีลดอุบัติเหตุ ที่ได้ผล ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้ผลคือการวางแผนการบริหารจัดการที่ดี และแนวคิดหนึ่งที่จะช่วยจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ก็คือการเปลี่ยนเมืองให้มีความสมาร์ทขึ้น ผ่านการใช้สัญลักษณ์และสัญญาณไฟที่จะช่วยควบคุมการสัญจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผังเมืองที่ใช่คือจุดเริ่มต้นของการวางแผนที่ดี
ในการวางแผนเพื่อจัดการปัญหาเพื่อการแก้ ปัญหารถติด ที่ดีที่สุด ก็คือการจัดวางผังเมืองให้เหมาะสมกับรูปแบบการจราจรและความหนาแน่นของการสัญจรในแต่ละพื้นที่ของเมืองตามช่วงเวลาเร่งด่วนในจุดต่าง ๆ
เช่น การย้ายศูนย์ราชการของภาครัฐไปยังพื้นที่ใหม่ที่อยู่ชานเมืองที่ที่มีการจราจรไม่หนาแน่น และมีพื้นที่มากพอที่จะรองรับการสร้างถนนขนาดใหญ่ หรือจะเป็นการวางรูปแบบของถนนใหม่ให้มีความคล่องตัวมากขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของเมือง ให้สอดรับกับผังเมืองทั้งระบบ เช่น การจัดสร้างทองลอดตามแยกที่มีการจราจรหนาแน่น หรือการสร้างวงเวียนเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการสัญจร
จัดสรรการเดินทางในเส้นทางรองให้มีประสิทธิภาพ
โดยปกติแล้วตามหลักการวางผังเมืองและการวางแผนระบบสัญจรต่าง ๆ จะมีการแบ่งเส้นทางการสัญจรออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ เส้นทางหลักหรือถนนใหญ่ กับเส้นทางรอง ซึ่งเส้นทางหลักนั้นก็จะเป็นเส้นทางที่มีผู้ใช้งานมากทำให้บนถนนเส้นนั้นมีรถเป็นจำนวนมากกว่า ด้วยเพราะขนาดของถนนที่กว้างกับความจำเป็นในใช้เพื่อการเดินทางไปยังจุดหมาย ส่งผลทำให้จำนวนรถในถนนเส้นหลักมีจำนวนมาก
วิธีการที่ได้ผลคือการติดตั้ง ป้ายจราจร เพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกให้ผู้ใช้ถนนได้ทราบว่าหากในกรณีรถติดหรือต้องการเลี่ยงการเดินทาง จะสามารถเปลี่ยนไปใช้ถนนเส้นรองได้เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง รวมไปถึงสามารถติดตั้งกระจกโค้ง และป้ายแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนอยากมาใช้เส้นทางรองมากยิ่งขึ้น
จัดการระบบสัญญาณไฟให้สมาร์ท
สัญญาณไฟจราจร นับว่าเป็นสิ่งที่สามารถช่วยจัดการเรื่องปัญหารถติดได้เป็นอย่างดี หากมีการบริหารจัดการและการวางแผนให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการระบบสัญญาณไฟในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีรถบนท้องถนนมาก กับการใช้สัญญาณไฟเพื่อการระบายรถออกจากตัวเมืองในช่วงเย็นและนำรถเข้าตัวเมืองในช่วงเช้า ซึ่งหลักการในการจัดการสัญญาณไฟให้มีประสิทธิภาพ
จะต้องมีการวางแผนการกำหนดระยะเวลาของการให้ไฟเขียวและแดงที่สอดคล้องกันทั้งระบบของตัวเมือง เราสามารถใช้ไฟแดงในการชะลอจำนวนรถในพื้นที่ที่ไม่ใช่ทางสำคัญได้แล้วปล่อยไฟเขียวให้กับรถที่รอการระบายให้มากกว่า หลักการนี้จำเป็นที่จะต้องทำไปพร้อมกันอย่างสอดคล้องทั่วทั้งระบบการจราจรของเมือง และในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้การบริหารสัญญาณไฟจราจรในเมืองมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว
การใช้ป้ายสัญลักษณ์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
เพราะอุบัติเหตุเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจราจรของรถในเมืองเกิดการติดขัดได้ ซึ่ง วิธีลดอุบัติเหตุ หนึ่งที่ได้ผลคือการใช้ ป้ายจราจร เพื่อการกำหนดรูปแบบและพฤติกรรมการใช้ใช้ถนนของผู้ขับขี่ยานพาหนะ เช่น การติดตั้งป้ายควบคุมความเร็วไม่ให้มีการใช้ความเร็วเกินกำหนดในเส้นทางเสี่ยง รวมไปถึงการติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ระวังในการใช้ความเร็ว รวมไปถึงการติดป้ายเพื่อเป็นการแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการก่อสร้างต่าง ๆ เป็นต้น
การดำเนินการนี้จะช่วยลดโอกาสและความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ที่สำคัญคือการติดตั้งป้ายจราจรนั้นจะต้องติดตั้งให้ถูกต้องตามหลักการและติดตั้งให้ผู้ช้รถสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งในช่วงระยะทางที่เหมาะสมก่อนถึงจุดก่อสร้าง ทางโค้ง หรือจุดเสี่ยง รวมไปถึงการติดตั้งป้ายจราจรให้มีความถี่ที่ต่อเนื่องตลอดเส้นทางสัญจร
วางแผนยกระดับเทคโนโลยีของอุปกรณ์จราจร
สำหรับพื้นที่เมืองซึ่งมีการใช้อุปกรณ์จราจรที่ค่อนข้างมีอายุหรือเป็นของที่เก่าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้ง สัญญาณไฟจราจร กรวยจราจร ทางกั้น และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการชำรุดเสียหายและไม่พร้อมในการใช้งาน จากของที่จะช่วยลดอุบัติเหตุอาจนำไปสู่การทำให้เกิดความเสี่ยงบนท้องถนนที่มากขึ้นได้
หากอุปกรณ์นั้น ๆ อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือผู้ดูแลพื้นที่ต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนเพื่อปรับการจราจรในเมืองให้สมาร์ทขึ้น ด้วยการจัดการเปลี่ยนอุปกรณ์จราจรให้เป็นของใหม่และเป็นอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น กรวยจราจรสะท้อนแสง หมุดถนนที่สามารถสะท้องแสงได้ในช่วงกลางคืน หรือจะเป็นเทปติดถนน 3 มิติ ที่ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นแม้ในสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ
การกำหนดระยะเวลาในการเดินรถแต่ละประเภท
เมืองที่สมาร์ทจะมีการกำหนดกรอบช่วงเวลาที่เป็นข้อบังคับในการอนุญาตให้รถแต่ละประเภทใช้ถนนในช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่น การห้ามไม่ให้รถบรรทุกขนาดเกิน 6 ล้อ เข้าใช้ถนนในเขตพื้นที่เมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนที่เป็นช่วงเช้าและช่วงเย็น หรือกำหนดให้รถบรรทุกสำหรับการก่อสร้างสามารถวิ่งเข้าตัวเมืองได้เฉพาะช่วงเวลาที่กำหนดตามเหตุจำเป็นในแต่ละกรณีไป เป็นต้น
รวมไปถึงการอนุญาตให้มีเฉพาะรถบางประเภทสามารถใช้ทางเฉพาะหรือเส้นทางพิเศษด้วย เช่น การห้ามไม่ให้รถจักรยานยนต์ขับขึ้นบนทางพิเศษ ทางด่วน หรือทางหลัก วิธีการวางแผนแบบนี้จะช่วยให้ระบบการจราจรในเมืองมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลดจำนวนรถบนท้องถนนด้วยขนส่งมวลชน
หนึ่งวิธีที่สามารถที่จะช่วยจัดการกับปัญหารถติดในพื้นที่เมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแนวทางที่จะทำให้เมืองมีความสมาร์ทมากยิ่งขึ้น ก็คือการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถที่จะรองรับกับความต้องการในการเดินทางสัญจรของผู้คนได้อย่างครอบคลุม เช่น การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือรถรางที่วิ่งประจำให้บริการบนท้องถนน เป็นต้น
และที่สำคัญคือผู้ที่มีหน้าที่ดูแลการสัญจร จะต้องมีการกำหนดและติดตั้ง สัญลักษณ์จราจร ให้ชัดเจน เพื่อกำหนดพื้นที่ว่าส่วนไหนเป็นพื้นที่ที่จัดไว้เพื่อรองรับระบบขนส่งมวลชน และส่วนไหนเป็นพื้นที่สำหรับยานพาหนะส่วนบุคคล หากสามารถทำได้ จะช่วยให้การเดินทางในเมืองสมาร์ทขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งหากระบบขนส่งมวลชนมีคุณภาพ จะส่งผลให้จำนวนรถส่วนบุคคลมีจำนวนลดลงจะทำให้ปัญหารถติดหรืออุบัติเหตุบนท้องถนนมีจำนวนลดลงได้ในระยะยาว
ด้วยการบริหารจัดการและการวางแผนเมืองอย่างเป็นระบบ และการใช้การติดตั้ง สัญลักษณ์จราจร ร่วมกับการบริหารการสัญจรในเมืองอย่างชาญฉลาด จะทำให้ปัญหาที่มีอยู่ทั้งเรื่องรถติดและอุบัติเหตุรวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ลดน้อยลงได้ ซึ่งทางผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถที่จะให้ทีมงานมืออาชีพช่วยสนับสนุนได้ ด้วยการจัดการอุปกรณ์จราจรคุณภาพ ที่การันตีคุณภาพ วางใจได้ด้วยบริการจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่ trafficthai.com
ที่มาของข้อมูล:
– https://www.trafficthai.com/content_blog-35.html