หากบอกว่าตำแหน่งใดที่มักโดนจับจ้องเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มากเป็นลำดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นฝ่ายบัญชีกับฝ่ายจัดซื้อ แต่ความหวาดระแวงที่มีมากกว่าก็คือหลายคนชอบคิดว่าฝ่ายจัดซื้อเองมีนอกมีในกับบรรดาซัพพลายเออร์หรือผู้ขายทั้งหลาย
ยิ่งบางคนใช้งานกับเจ้านี้เป็นประจำ มีอะไรก็เรียกใช้งานเจ้านี้ตลอดโอกาสที่จะถูกมองแบบนี้ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในฐานะที่ทางบริษัทเองคงไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีอย่างนี้แน่ ๆ เพราะมันเปรียบได้กับการยักยอกเงินบริษัทที่ต้องจ่ายเพิ่มเข้าไปในการซื้อสินค้า ร้านไทยจราจร จึงมาแนะนำ 5 วิธีป้องกันไม่ให้ฝ่ายจัดซื้อกินหัวคิวจากบริษัท ทำอย่างไรบ้างไปดูกัน
1.ให้คอมมิชชั่นทุกเดือนว่าใครลดต้นทุนให้กับบริษัทได้มากที่สุด
วิธีแรกคือทำให้เหมือนกับเป็นเซลล์โดยการสร้างคอมมิชชั่นให้กับฝ่ายจัดซื้อโดยระบุเอาไว้ว่าใครที่ลดต้นทุนในการซื้อสินค้าต่าง ๆ เข้ามาได้มากที่สุดจะได้รับคอมมิชชั่นไปตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด วิธีนี้จะช่วยให้บรรดาฝ่ายจัดซื้อทั้งหลายพยายามหาสินค้าที่ถูกที่สุดเข้ามายังบริษัท แต่ต้องเน้นย้ำว่าสินค้าที่ซื้อเข้ามาต้องมีคุณภาพด้วย การทำแบบนี้เปรียบได้กับการสร้างแรงจูงใจที่ดีไม่ให้จัดซื้อไปกินหัวคิวของบริษัทในการจ่ายให้กับซัพพลายเออร์ แถมยังช่วยในเรื่องการลดต้นทุนให้กับบริษัทได้จริง ๆ เช่น เดือนนี้นาย ก ลดต้นทุนได้มากสุดก็รับคอมมิชชั่นไป พอเดือนหน้านาย ข อยากได้บ้างก็ต้องพยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดเหมือนกัน
2.มีการอบรมเรื่องจริยธรรมในการทำงานด้านนี้อยู่เสมอ
การอบรมด้านจริยธรรมคือสิ่งที่จะช่วยขัดเกลาจิตใจให้กับฝ่ายจัดซื้อได้เยอะมากทีเดียว แม้ดูเป็นวิธีที่ไม่ได้มีแรงจูงใจอะไรมากนักแต่อย่างน้อยที่สุดคือการสร้างสำนึกให้เกิดขึ้นกับตัวบุคคลย่อมถือว่าเป็นการช่วยลดปัญหาการกินหัวคิวบริษัทในทางอ้อมได้เป็นอย่างดี การอบรมนี้อาจอบรมในบริษัทโดยเจ้าของเองหรือการพาไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้านนอก ก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง สมมุติคนที่กำลังมีการติดต่อซื้อ หน้ากากป้องกันฝุ่น N95 เข้ามาใช้งานพอได้อบรมก็มีสติได้ว่าสิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้องและจะสร้างปัญหาให้กับตนเองในอนาคตได้หากมีการจับได้ขึ้นมา เรียกว่าเป็นการกระตุ้นจิตใจภายในให้ต่อสู้กับความโลภนั่นเอง
3.ให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือพาไปเลี้ยงเป็นประจำ
การให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ แก่คนทำงานถือเป็นกำลังใจชั้นดีที่จะช่วยให้พวกเขาซื่อสัตย์ มีแรงต่อสู้ร่วมกับองค์กรต่อไป เช่น ช่วงสิ้นปีอาจมีการแจกทองให้กับฝ่ายจัดซื้อที่ทำผลงานได้ดี มีการให้เงินรางวัลเป็นของช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นต้น หรืออาจมีนโยบายในการพาไปเลี้ยงทุกเดือนระหว่างนั่งทานอาหารก็พูดคุยกันสนุกสนาน
ทำตัวให้ลูกน้องรู้สึกว่าเจ้านายรัก เอ็นดู แบบนี้โอกาสที่จะเกิดการกินหัวคิวย่อมน้อยลงแน่ ๆ เพราะจิตใต้สำนึกลึก ๆ เองเมื่อเจ้านายดีลูกน้องทุกคนก็อยากทำผลงานของตนเองออกมาให้ดีที่สุดเพื่อให้เจ้านายภูมิใจเช่นกัน เวลาเจอเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถกินหัวคิวของบริษัทได้ก็ไม่อยากทำเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไปทำงานที่อื่นจะเจอคนดี ๆ แบบนี้หรือไม่ เป็นการลดปัญหานี้ได้ในระดับหนึ่ง เรียกว่าให้ความจริงใจก็ได้
4.หากพบคนทุจริตจริงต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดที่สุดเพื่อไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง
บางกรณีก็จำเป็นต้องใช้ไม้แข็งเข้าสู่เหมือนกันหากว่าใช้ไม้อ่อนแล้วไม่ได้ผล สมมุติว่าการจัดซื้อ เข็มขัดพยุงหลัง ครั้งนี้ตรวจสอบพบว่ามีการกินหัวคิวจากฝ่ายจัดซื้อจริง ๆ ก็จำเป็นต้องลงโทษสถานหนักทั้งการให้ออกจากงาน, การให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงอาจมีการบอกกล่าวไปยังบริษัทอื่น ๆ ด้วยว่าบุคคลคนนี้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เรียกว่าใช้ไม้แข็งมาก ๆ เพื่อไม่ให้คนอื่น ๆ ทำตามได้อีก แม้ดูโหดร้าย แต่เมื่อไม่มีความซื่อสัตย์กับงานที่ทำแถมยังเป็นเหตุผลให้บริษัทเสียหายก็จำเป็นต้องจัดการ
5.ให้เงินเดือนและโบนัสอย่างสมน้ำสมเนื้อ
ข้อนี้เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฝ่ายจัดซื้อเองไม่อยากกินหัวคิวเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเขารู้ดีว่าเงินเดือนที่ได้รับก็มากพออยู่แล้ว บวกกับโบนัสแต่ละปีก็สูงไม่ใช่เล่น การจะมากินหัวคิวแล้วโดนจับได้ ไล่ออก แล้วไปหาเงินเดือนแบบนี้ โบนัสแบบนี้จากบริษัทอื่นคงยาก แถมอาจโดนเอาชื่อไปบอกต่อทำให้หางานยากขึ้นไปอีก การทำงานของฝ่ายจัดซื้อเองจะเกิดความสุจริตโปร่งใสมากขึ้นกว่าเดิม เช่น จะซื้อ เทปกันลื่น หรือ เทปยูโร แม้มีช่องทางได้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เลือกจะไม่เอาเพราะไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องเสียในอนาคต
ทั้ง 5 วิธีป้องกันที่ ร้านไทยจราจร ได้นำเสนอมานี้ถือว่าเป็นแนวทางที่ทุกบริษัทนำไปใช้ได้จริง แต่ที่สำคัญสุดคือตัวผู้ทำหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต รู้หน้าที่ของตนเองว่าควรและไม่ควรทำอะไร สำคัญคือต้องมองถึงอนาคตไม่ใช่เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนนี้แต่ต้องเสียโอกาสดี ๆ ไปตลอดชีวิต คิดมุมไหนก็ไม่คุ้มค่ากันเลยแม้แต่นิดเดียว
