หมวกเซฟตี้ อุปกรณ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุบัติเหตุ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

หมวกเซฟตี้ อุปกรณ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุบัติเหตุ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

หมวกเซฟตี้ หรือที่เราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หมวกนิรภัย มีไว้สำหรับสวมใส่ศีรษะ ขณะทำงาน เป็นสิ่งที่องค์กร หรือบริษัทที่ดำเนินกงานเกี่ยวกับ เครื่องจักร และอุตสาหกรรมก่อสร้าง ต้องมีไว้สำหรับพนักงานสวมใส่ เพื่อป้องกันวัตถุจากที่สูงหล่นลงมาใส่ศีรษะ และช่วยปกป้องจากการลื่นล้มกระแทกพื้น เพราะหมวกเซฟตี้จะทำหน้ากระจายแรงกระแทกให้เป็นบริเวณกว้าง ช่วยดูดซับแรงกระแทกให้เบาลง ซึ่งจะช่วยให้ ลดการบาดเจ็บที่เสี่ยงถึงชีวิตได้

⛑️ หมวกเซฟตี้ สำคัญอย่างไร

เนื่องจากอุบัติเหตุจากการทำงาน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ยกตัวอย่างเช่น สิ่งของตกจากที่สูง การลื่นล้มในพื้นที่ที่ปฏิบัติงาน หมวกเซฟตี้จึงมีความสำคัญในแง่ของ การช่วยลดอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นอันจะทำให้เสียชีวิตได้ เหมาะกับการสวมใส่ ในสถานที่ทำงาน ที่มีความเสี่ยงอันตราย จากสิ่งของหล่นจากที่สูง พื้นที่การทำงานที่ยังไม่เรียบร้อย โดยมีคุณสมบัติคือ ทนต่อการกระแทก การเจาะทะลุ รวมไปถึงช่วยกันกระแสไฟ้ฟ้าได้ เราจึงต้องสวมหมวกเซฟตี้ทุกครั้งที่ปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

⛑️ ส่วนประกอบของหมวกเซฟตี้

  1. เปลือกหมวก ทำด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทำจากพลาสติก ไฟเบอร์กลาส หรืออลูมิเนียม
  2. รองในหมวก ส่วนที่ทำให้หมวกกระจายแรงกระแทกออกไปโดยรอบหมวก
  3. สายคาดศีรษะ คุณสมบัติเหนียวนิ่ม ช่วยเพิ่มความกระชับขณะสวมใส่ สามารถปรับได้ตามขนาดศีรษะ
  4. สายรัดคาง ช่วยป้องกันไม่ให้หมวกหล่นขณะสวมใส่ สามารถปรับระดับได้
  5. แถบซับเหงื่อ เพื่อป้องกันมิให้เหงื่อไหลเข้าตาขณะปฏิบัติงาน

⛑️ หมวกเซฟตี้ใช้กับงานประเภทใดบ้าง

  • หมวกเซฟตี้สำหรับใช้กันไฟฟ้าแรงสูง ตัวหมวกมีพลาสติก และแบบไฟเบอร์กลาส เป็นส่วนประกอบ เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับกระแสไฟฟ้า เช่น งานช่างไฟฟ้า ช่างเดินสายไฟ
  • หมวกเซฟตี้สำหรับงานที่ต้องทำในบริเวณที่มีความร้อน ตัวหมวกทำด้วยวัสดุจากโลหะ เหมาะสำหรับงานขุดเจาะน้ำมัน หรือช่างเชื่อม โดยที่ตัวหมวกไม่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าได้
  • หมวกเซฟตี้ที่สามารถทนความร้อนสูง ตัวหมวกมีพลาสติก และแบบไฟเบอร์กลาส เป็นส่วนประกอบ  เหมาะสำหรับใช้ในงานดับเพลิง และงานเหมือง โดยที่ตัวหมวกมีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถทนไฟ ต้านทานการลุกไหม้ได้
  • หมวกเซฟตี้สำหรับการใช้งานทั่วไป ตัวหมวกมีพลาสติก และแบบไฟเบอร์กลาส เป็นส่วนประกอบ ใช้ในงานทั่วไป หรือในโรงงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง งานติดตั้ง พนักงานขนส่งสินค้า

⛑️ หมวกเซฟตี้เหมาะกับงานแบบไหนบ้าง

ในพื้นที่ปฏิบัติงาน เราไม่จำเป็นต้องสวมหมวกเซฟตี้ตลอดเวลาก็ได้ หากประเมินความเสี่ยงแล้วว่า พื้นที่ปฏิบัติงานนั้น ไม่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับเราได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับกฎข้อบังคับของแต่ละองค์กร ที่จะแตกต่างกันไป ไม่มีหมวกเซฟตี้รุ่นใด ที่จะสมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน

⛑️ เกณฑ์การเลือกหมวกเซฟตี้ มีดังนี้

  • เลือกใช้หมวกเซฟตี้ ที่มีขนาดพอดีกับผู้สวมใส่ และต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฎิบัติงาน
  • หมวกเซฟตี้ต้องมีสีสันที่เด่นชัด มีน้ำหนักเบา
  • ควรมีการเปลี่ยนหมวกเซฟตี้ใหม่ หากมีรอยร้าวจากการได้รับการกระแทกมาแล้ว หรือการสัมผัสกับอากาศที่เป็นพิษ
  • หมวกเซฟตี้ต้องได้มาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และเป็นไปตามข้อกำหนดของสถาบันที่น่าเชื่อถือ
  • เลือกใช้หมวกเซฟตี้ให้เหมาะกับลักษณะงาน

ในการเลือกซื้อสินค้า เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน แบรนด์สินค้าที่น่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น โอทีอินเตอร์เทรด ได้ทำการเลือกวัสดุที่ป้องกันอันตราย ให้กับศีรษะของคุณได้ ทนทานต่อแรงกระแทก และถ้าเราก็มีให้เลือกถึง 3 รุ่น ให้เหมาะสมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

1. หมวกเซฟตี้ S-GUARD 👷‍♂️

หมวกเซฟตี้ S-GUARD เหมาะสำหรับป้องกันอันตรายที่เกิดจากเศษวัสดุ หรือสิ่งของตกใส่ศีรษะ มีทั้งแบบปรับเลื่อน และปรับหมุน ผลิตจาก ABS ที่มีความทนทาน และสวยงาม และ HDPE ในการเลือกหมวกเซฟตี้ก็มีความสำคัญ เพราะหมวกมีหลายรูปแบบ เราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงานที่ทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด

หมวกเซฟตี้ S-GUARD J1 (Safety Helmet) ออกแบบเพื่อ เพิ่มความสบายในการสวมใส่ สวยงาม ดูดี ทั้งยังระบายอากาศได้ดี ระหว่างการสวมใส่หมวกเซฟตี้รุ่นนี้อีกด้วย ขอบหมวกมีรางรอบเพื่อรองรับน้ำฝน และหมวกเซฟตี้ S-GUARD

  • ผ่านมาตรฐาน : มอก. 368-2554
  • ตัวหมวกเซฟตี้ผลิตจาก ABS และมีรองใน : 6 จุด
  • ระบบล็อค สามารถปรับเลื่อน หรือปรับหมุนได้
  • หมวกเซฟตี้ มีทั้ง 7 สี คือ ขาว เหลือง น้ำเงิน ฟ้า เขียว ส้ม แดง

2. หมวกเซฟตี้ MAPLE 👷‍♂️

หมวกเซฟตี้ สำหรับป้องกันอันตรายที่เกิดจากเศษวัสดุ สิ่งของตกใส่ศีรษะ และกันแดดขณะปฏิบัติงาน เหมาะสำหรับวิศวกร ผู้คุมไซท์งานกลางแจ้ง ผู้รับเหมา พนักงานขับรถกลางแจ้ง พนักงานขับรถในคลังสินค้า

  • ตัวหมวกผลิตจาก ABS พลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง ทนทานพิเศษ
  • หมวกเซฟตี้ ผ่านมาตรฐาน มอก. 368-2554 ชั้นคุณภาพ C (THAI INDUSTRIAL STANDARD TIS 368-2554 CLASS C )
  • มีช่องระบายอากาศหน้า และหลัง รูปแบบทันสมัย
  • มีสายคาดศีรษะผลิตจากพีวีซี ปรับขนาดได้จาก 500 มม. ถึง 600 มม.
  • ตัวยึดเปลือกหมวกผลิตจาก PE พอลิเอทิลีน คือ พลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง
  • มีแถบซับเหงื่อด้านใน Sweat Band ผลิตจากผ้าใบผสม PVC มีความอ่อนนุ่ม
  • ไม่ระคายเคืองผิว และกันเหงื่อไหลเข้าตาขณะทำงาน
  • สายรองศีรษะด้านในผลิตจากวัสดุไนล่อน 23 มม. x 1 มม.
  • สายรัดคาง Elastic กว้าง 20 มม. ปรับขนาดได้
  • รองในจำนวน 6 จุด
  • ปรับความกระชับหมวกด้วยตัวล็อค แบบปรับเลื่อน / แบบปรับหมุน

3. หมวกเซฟตี้ GENIUS 👷‍♂️

หมวกเซฟตี้ GENIUS เหมาะสำหรับป้องกันอันตรายที่เกิดจากเศษวัสดุ หรือสิ่งของตกใส่ศีรษะ มีทั้งแบบปรับเลื่อน และปรับหมุน วัตถุดิบ ABS ที่มีความทนทาน และมีสีสวย และ HDPE หมวกเซฟตี้ที่ดีต้องได้มาตรฐานรับรอง เพราะเมื่อผู้ปฏิบัติงานสวมใส่แล้ว จะรู้สึกปลอดภัย และในการเลือกหมวกเซฟตี้ก็มีความสำคัญ เพราะหมวกมีหลายรูปแบบ เราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงานที่ทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด

  • หมวกเซฟตี้ GENIUS (Safety Helmet)
  • ผ่านมาตรฐาน: มอก. 368-2554
  • หมวกเซฟตี้ผลิตจาก HDPE / ABS และมีรองใน: 6 จุด
  • ระบบล็อคสามารถปรับเลื่อน หรือปรับหมุน
  • หมวกเซฟตี้สี 5 สี คือ ขาว เหลือง น้ำเงิน เขียว ส้ม

จะเห็นได้ว่า หมวกเซฟตี้มีให้เลือกมากมายหลายสี ซึ่งแต่ละสี บอกได้ถึงตำแหน่ง หน้าที่ และมีความหมายในตัวเองทั้งสิ้น

  • 🔴🟠 สีแดง หรือสีส้ม – สำหรับเจ้าหน้าที่งานดับเพลิง ช่างเชื่อม และการทำงานที่เกี่ยวกับความร้อน
  • 🟢 สีเขียว – สำหรับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย
  • 🟡 สีเหลือง – สำหรับพนักงานทั่วไป
  • 🔵 สีน้ำเงิน – สำหรับช่างไฟฟ้า ช่างไม้ และเจ้าหน้าที่เทคนิคอื่นๆ
  • ⚪ สีขาว – สำหรับวิศวกร ผู้บริหาร หัวหน้างาน และผู้เยี่ยมชม

การดูแลรักษาหมวกเซฟตี้

  1. ควรทำความสะอาดทั้งตัวหมวก และอุปกรณ์ ทุกครั้ง หลังใช้งาน โดยใช้น้ำสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือทุกวัน
  2. เก็บหมวกเซฟตี้ในสถานที่ที่เหมาะสม ไม่วางไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะจะทำให้วัสดุพลาสติกเสื่อมสภาพเร็ว
  3. ไม่ควรนำหมวกเซฟตี้ที่มีรอยแตกร้าวมาใช้งาน
  4. ไม่โยนหมวกเซฟตี้จากที่สูง เพราะตัวหมวกอาจเสียหายได้
  5. ไม่ควรใช้สารเคมี หรือสารละลายทำความสะอาดหมวกเซฟตี้ เพราะจะทำให้วัสดุภายในเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

จะเห็นได้ว่าหมวกเซฟตี้นั้น เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยลดอันตราย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในขณะทำงานได้ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับหมวกเซฟตี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และการเลือกหมวกนิรภัยที่ดี ต้องเลือกที่เหมาะสมกับงานที่ทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน และต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด สวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้ง ที่ต้องทำงานที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอันตรายจากสิ่งของตกใส่ศีรษะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *