ป้ายความปลอดภัยในโรงงาน มีอะไรบ้างที่สำคัญ

ป้ายความปลอดภัยในโรงงานเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน ป้ายความปลอดภัยที่ถูกติดตั้งในโรงงานมีหลายประเภทและมีบทบาทสำคัญในการแจ้งเตือนแรงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น นี่คือบางป้ายความปลอดภัยที่สำคัญในโรงงาน

ทำไมต้องมีป้ายเตือนในโรงงาน?

การติดป้ายเตือนในโรงงาน เป็นหนึ่งในข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย หากคุณกำลังสร้างโรงงานใหม่ หรือมีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นของตัวเอง แต่ถ้าภายในโรงงานไม่มีป้ายเตือน ป้ายทางเข้าออก หรือป้ายทางหนีไฟ โรงงานของคุณก็อาจจะมีสิทธิ์ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยในเบื้องต้นนั่นเอง

ป้ายเตือนโรงงานมีกี่ประเภท

  1. ป้ายเตือนความระมัดระวัง (Caution Signs): ป้ายนี้มักใช้เพื่อเตือนความระมัดระวังเกี่ยวกับสภาวะหรือกิจกรรมที่อาจเกิดความเสี่ยงหรืออันตรายได้ เช่น ป้ายเตือนเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสิ่งของหนัก หรือการทำงานที่อาจทำให้ตกหรือบาดเจ็บ.
  2. ป้ายสัญญาณตรงทาง (Directional Signs): ป้ายนี้ใช้เพื่อชี้ทางและช่วยให้คนงานหรือผู้ที่เข้ามาในโรงงานเข้าใจทิศทางและสถานที่ต่าง ๆ ในโรงงาน.
  3. ป้ายห้าม (Prohibition Signs): ป้ายนี้บอกว่าสิ่งที่กำหนดห้ามหรือไม่อนุญาตให้ทำในบริเวณนั้น อาจเป็นการห้ามสูบบุหรี่ ห้ามระงับเปลวไฟ ห้ามเข้าระเบียงที่ไม่อนุญาต ฯลฯ
  4. ป้ายสอบถาม (Information Signs): ป้ายนี้ใช้ในการให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน, เครื่องมือ, หรือวัตถุสิ่งของ ที่คนงานหรือผู้เข้ามาในโรงงานควรรู้.
  5. ป้ายการแจ้งเตือนฉุกเฉิน (Emergency Signs): ป้ายนี้บอกถึงที่ตั้งของอุบัติเหตุ และที่ตั้งของอุปกรณ์การช่วยเหลือ เช่น ป้ายที่บอกที่ตั้งของเครื่องดับเพลิง หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน.
  6. ป้ายการใช้งานอุปกรณ์ (Equipment Signs): ป้ายนี้ใช้เพื่อบอกวิธีการใช้งานและอบรมในการใช้งานเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในโรงงาน.
  7. ป้ายสิ่งอันตราย (Hazard Signs): ป้ายนี้บอกถึงสิ่งที่อาจเป็นอันตราย อาจเป็นป้ายเตือนเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย, สิ่งที่สะเทือน, แรงบิดเบือน, ฯลฯ

นอกจากนั้น ยังสามารถแบ่งเป็นป้ายเตือนรูปแบบแปะติดผนัง สำหรับป้ายเตือนที่ต้องติดเอาไว้ถาวร เช่น ป้ายห้ามสูบบุหรี่ ป้ายห้ามเข้า ป้ายห้ามจุดไฟ เป็นต้น ส่วนอีกรูปแบบหนึ่ง คือ ป้ายแบบตั้งพื้น สำหรับตั้งชั่วคราวขณะปฏิบัติหน้าที่ สามารถเคลื่อนย้ายได้บ่อย เช่น ป้ายกำลังทำความสะอาด ป้ายระวังรถยก หรือป้ายเตือนสียังไม่แห้ง เป็นต้น

ป้ายห้าม

ได้แก่ ป้ายห้ามสัมผัส, ป้ายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ, ป้ายห้ามซ่อมเครื่องก่อนได้รับอนุญาต, ป้ายห้ามเข้า, ป้ายห้ามสวมรองเท้าแตะ, ป้ายห้ามแตะต้องเครื่องจักร, ป้ายห้ามทำให้เกิดประกายไฟ, ป้ายห้ามสูบบุหรี่ป้ายห้ามใช้น้ำดับไฟ ฯลฯ

ป้ายบังคับ

ได้แก่ ป้ายบังคับสวมหมวกนิรภัย, ป้ายบังคับสวมแว่นตานิรภัย, ป้ายบังคับสวมที่ครอบหูลดเสียง, ป้ายบังคับสวมหน้ากากกันฝุ่น, ป้ายบังคับสวมหน้ากากกันสารเคมีป้ายบังคับสวมหน้ากากเชื่อม, ป้ายบังคับสวมถุงมือนิรภัย, ป้ายบังคับต้องล้างมือให้สะอาด ฯลฯ

ป้ายเตือน

ได้แก่ ป้ายระวังอันตราย, ป้ายพื้นที่อันตราย, ป้ายระวังสารกัมมันตภาพรังสีป้ายระวังอันตรายไฟฟ้าแรงสูงป้ายระวังรถยกป้ายระวังอันตรายจากสารเคมี, ป้ายระวังวัตถุมีพิษ, ป้ายระวังอันตรายจากเครื่องจักร ฯลฯ

ป้ายแสดงภาวะความปลอดภัย

ได้แก่ ป้ายที่ล้างตาฉุกเฉิน, ป้ายชุดปฐมพยาบาลป้ายโทรศัพท์ฉุกเฉิน, ป้ายพื้นที่ความปลอดภัย, ป้ายปลอดภัยไว้ก่อน (Safety First), ป้ายที่พักสูบบุหรี่, ป้ายทางออก (Exit), ป้ายทางหนีไฟ (Fire Exit) ฯลฯ

ป้ายแสดงเกี่ยวกับอัคคีภัย

ได้แก่ ป้ายถังดับเพลิง, ป้ายสายฉีดน้ำดับเพลิง, ป้ายสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้, ป้ายโทรศัพท์ฉุกเฉิน ฯลฯ

ตัวอย่างมาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัย

มาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัย คือ รูปแบบของเครื่องหมายและสัญลักษณ์ความปลอดภัยที่ทั้งกฎหมายไทยและต่างประเทศได้กำหนดไว้ โดยจะมีรูปแบบที่เป็นสากล แต่อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยที่ส่วนของรูปแบบ และภาษาที่ใช้ โดยตัวอย่างมาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัย มีดังนี้

มอก.635-2554

มอก. 635-2554 คือ มาตรฐานที่กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการการออกแบบผลิตภัณฑ์ เครื่องหมาย สี และสัญลักษณ์แสดงความปลอดภัย ที่ใช้ในสถานที่ทำงาน หรือพื้นที่สาธารณะ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ตามนโยบายของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ)

โดยมอก. 635-2554 จะมีการกำหนดรูปแบบการใช้สี และเครื่องหมายที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทของข้อความที่ต้องการสื่อสาร ซึ่งแบ่งประเภทของเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัยออกเป็น 5 รูปแบบ คือ เครื่องหมายห้าม เครื่องหมายบังคับ เครื่องหมายเตือน เครื่องหมายแสดงสภาวะปลอดภัย และเครื่องหมายแสดงอุปกรณ์เกี่ยวกับอัคคีภัย

มาตรฐาน ISO 3864

มาตรฐาน ISO 3864 คือ มาตรฐานสากลของการออกแบบป้าย หรือเครื่องหมายเพื่อความปลอดภัย ที่ใช้ในสถานที่ทำงาน และสถานที่สาธารณะ โดยจะเน้นการใช้ภาพกราฟิก หรือสัญลักษณ์ที่สามารถตีความสารได้ง่าย เพื่อลดปัญหาในส่วนของกำแพงภาษา ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 4 ส่วน คือ

  • หลักการออกแบบป้ายความปลอดภัย และ ความปลอดภัย (ISO 3864-1:2011)
  • หลักการออกแบบฉลากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (ISO 3864-2:2016)
  • หลักการออกแบบสัญลักษณ์กราฟิก เพื่อใช้ในป้ายความปลอดภัย (ISO 3864-3:2012)
  • คุณสมบัติสี และ โฟโตเมตริกของวัสดุป้ายความปลอดภัย (ISO 3864-4:2011)

มาตรฐาน ISO 7010

มาตรฐาน ISO 7010 คือ มาตรฐานของสัญลักษณ์ความปลอดภัย ที่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และป้องกันการเกิดอุบัติในรูปแบบต่างๆ เช่น การอพยพฉุกเฉิน หรือการเกิดอัคคีภัย ซึ่งจะเน้นไปที่การใช้สัญลักษณ์ และลดการใช้ปริมาณตัวอักษรให้น้อยที่สุด เพื่อสร้างความเข้าใจที่เป็นสากลตามมาตรฐาน ISO 3864-1

มาตรฐาน ANSI Z535

มาตรฐาน ANSI Z535 คือ มาตรฐานสำหรับเครื่องหมายและสัญลักษณ์ความปลอดภัยที่กำหนดโดยสถาบันมาตรฐานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (ANSI: American National Standards Institute) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ โดยได้กำหนดไว้ทั้งหมด 6 รูปแบบ ดังนี้

  • สีแดง: สำหรับสัญญาณอันตราย สัญญาณฉุกเฉิน และวัตถุไวไฟ
  • สีส้ม: สำหรับสัญญาณเตือน และบอกถึงสถานะของอุปกรณ์-เครื่องจักรที่กำลังอยู่ในระหว่างการทำงาน
  • สีเหลือง: สำหรับการแจ้งเตือนเมื่อเกิดอันตรายทางกายภาพ
  • สีเขียว: สำหรับความปลอดภัย และการปฐมพยาบาล
  • สีฟ้า: สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกหรืออื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
  • สีม่วง: สามารถกำหนดการใช้งานได้ตามสะดวกในสถานที่ของตัวเอง

การติดตั้งป้ายความปลอดภัยถูกต้องและเพียงพอมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงและป้องกันอุบัติเหตุในโรงงาน พนักงานทุกคนควรรู้จักป้ายความปลอดภัยและปฏิบัติตามคำแนะนำบนป้ายเพื่อรักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นในสถานที่ทำงาน

ที่มา:

  • https://www.ofm.co.th/blog
  • https://inb.co.th/th/blog/safety-symbol/