การเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศนอกจากจะเป็นการได้รับประสบการณ์ใหม่ด้วยการชมสถานที่ สิ่งก่อสร้าง ความงดงามทางธรรมชาติแล้ว สิ่งที่ได้รับจากการไปท่องเที่ยวในต่างประเทศคือการได้จับจ่ายซื้อของติดไม้ติดมือเป็นของฝากหรือจะไว้ใช้เอง เพราะมีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ขายในต่างประเทศที่ปลอดภาษีขายได้ในราคาย่อมเยา ทำให้เหล่าบรรดานักช้อป พากันชอบอกชอบใจได้ไปหิ้วสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้กลับเมืองไทย นอกจากนี้ในบางประเทศมีการคืนภาษี (Tax refund) ให้อีกด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศนั้น ๆ
การคืนภาษี (Tax refund) เป็นการคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เมื่อซื้อสินค้าในอัตราที่กำหนดสามารถขอคืนภาษีได้ ซึ่งการคืนภาษีในแต่ละประเทศก็จะมีอัตราภาษีที่ขอคืนแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับมูลค่าของสินค้าที่ซื้อหรือใช้จ่ายบริการต่าง ๆ
บทความในครั้งนี้ ร้านไทยจราจร ผู้จำหน่าย แผงกั้นจราจร และ ยางชะลอความเร็ว จึงมีข้อแนะนำมานำเสนอเกี่ยวกับการคืนภาษี (Tax refund) ว่าแต่ละประเทศคืนให้นักท่องเที่ยวกี่เปอร์เซ็นต์และต้องทำอย่างไรบ้าง มาแบ่งปันเล่าให้ฟัง หวังว่าคงจะถูกใจนักซ๊อปทั้งหลาย
การคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวในประเทศแถบเอเชีย
สำหรับประเทศในทวีปเอเชีย อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ประเทศเหล่านี้มีนโยบายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านทางการคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว หากเราไปซื้อของในประเทศเหล่านี้ เราจะต้องเก็บใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามรายการที่ประเทศเหล่านี้กำหนด และนำไปขอคืนภาษีที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ที่สนามบินนานาชาติในประเทศนั้น สำหรับอัตราการคืนภาษีก็แล้วแต่มูลค่าสินค้าและการใช้บริการ แต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน เช่น
อัตราการคืนภาษีของประเทศญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 8% โดยเราสามารถทำเรื่องขอคืนภาษีได้ โดยแบ่งตามชนิดสินค้าเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
สินค้ากลุ่มที่ 1 คือ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ยา เป็นต้น ทั้งนี้ มีเงื่อนไขคือต้องเป็นการซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,001-500,000 เยน และซื้อจากร้านเดียวกัน
สินค้ากลุ่มที่ 2 เช่น เครื่องแต่งกาย รองเท้า เสื้อผ้า กล้องถ่ายภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ มีเงื่อนไขคือต้องเป็นการซื้อสินค้าตั้งแต่ 10,001-500,000 เยน และซื้อจากร้านเดียวกัน
สำหรับประเทศเกาหลีใต้เราสามารถขอคืนภาษี (Tax Refund) ได้ประมาณ 10% ได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ โดยให้สังเกตร้านค้าจะมีป้ายปลอดภาษีแสดงไว้ โดยมียอดซื้อรวมครบ 30,000 วอนขึ้นไป
สำหรับประเทศสิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนของเรา สามารถขอคืนภาษีได้ 7 % ของราคาสินค้า เพียงซื้อครบจำนวน 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ในวันเดียวกันและรวมใบเสร็จได้ไม่เกิน 3 ใบ หากเราจ่ายด้วยบัตรเครดิตจะต้องเป็นบัตรใบเดียวกันจากร้านหรือห้างสรรพสินค้าเดียวกัน ซึ่งใบเสร็จที่ซื้อของตามปกตินั้นเอามาขอคืนภาษีไม่ได้ จนกว่าจะเราขอให้ร้านออกเป็นใบเสร็จแบบคืนภาษีแก่นักท่องเที่ยวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (eTRS) ของประเทศสิงคโปร์
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับอัตราคืนภาษีของประเทศแถบทวีปเอเชีย ที่ทาง ร้านไทยจราจร นำมาแบ่งปันให้ทราบในครั้งนี้ โดยทั่วไปจะมีอัตราที่ใกล้เคียงกัน คราวนี้ลองไปสำรวจดูว่าประเทศในแถบทวีปยุโรปและอเมริกามีอัตราการคืนภาษีเป็นอย่างไรกันบ้าง ดังนี้
ประเทศในทวีปยุโรป การขอคืนภาษี (Tax Refund) จะมีอัตราประมาณนี้
- ประเทศฝรั่งเศส ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 19.6%
- ประเทศอิตาลี ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 21%
- ประเทศเยอรมัน ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 19%
- ประเทศอังกฤษ ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 20%
- ประเทศเนเธอร์แลนด์ ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 19%
- ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 8%
- ประเทศออสเตรีย ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 20%
- ประเทศนอร์เวย์ ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 25%
- ประเทศเดนมาร์ค ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 25%
- ประเทศสวีเดน ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 25%
- ประเทศสเปน ขอคืนภาษีได้สูงสุดอยู่ที่ 18 %
สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาไม่มีนโยบายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านทางการคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว แต่เราจะเห็นได้ว่าประเทศต่าง ๆ ในยุโรปมีนโยบายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านทางการคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประโยชน์จากการซื้อของและประเทศนั้น ๆ ก็ได้รายได้จากการซื้อของจากนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย กรมสรรพากรก็มีช่องทางให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศขอ VAT คืนได้เช่นกัน เรียกในภาษาอังกฤษว่า VAT Refund for Tourist หรือ VRT ทำได้สะดวกมาก เพราะมีจุดรับเรื่องอยู่หลัก ๆ 3 แห่ง คือ 1) สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานนานาชาติ 10 แห่งทั่วประเทศ 2) ยื่นเรื่องใส่ตู้รับคำร้องที่ตั้งอยู่ในท่าอากาศยานนานาชาติ และ 3) ส่งเรื่องทางไปรษณีย์ไปยังกรมสรรพากร ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.rd.go.th/publish/55923.0.html ซึ่งขอ VAT คืนได้ 2 แบบ คือ เป็นเงินสด ไม่เกินรายละสามหมื่นบาท โดยรับเป็นสกุลเงินบาท
แต่ถ้าเกินยอดเงินเกินสามหมื่นบาท กรมสรรพากรจะสั่งจ่ายเป็นดราฟท์หรือโอนตรงเข้าบัญชีบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยว นโยบายและแนวทางนี้สามารถช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาจับจ่ายใช้บริการในประเทศไทย นำรายได้เข้าประเทศไทย แล้วนักท่องเที่ยวยังจะได้ VAT คืนในอัตราที่กำหนดอีกด้วย เที่ยวแล้วยังมีเงินคืนแบบนี้ มาแล้วก็อยากมาอีก มาแล้วก็อยากบอกต่อให้เพื่อน ๆ มาเที่ยวเมืองไทย สุขใจกันทั้งสองฝ่าย
ทั้งหมดนี้เป็นข้อแนะนำและความปรารถนาดีจาก ร้านไทยจราจร ผู้เชี่ยวชาญเรื่องป้ายจราจรและอุปกรณ์จราจรทุกชนิด อย่างไรก็ตามนอกจากที่เราจะไปท่องเที่ยวในต่างประเทศแล้ว เราก็ควรที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยและซื้อของไทยด้วย เพื่อประเทศไทยจะมีความเจริญรุ่งเรืองในเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
Block "content-bottom" not found
Block "catalog-trafficfence" not found