ในปัจจุบัน ธุรกิจให้เช่าพื้นที่เพื่อเก็บสินค้าหรือที่เรียกกันว่า คลังสินค้าเป็นธุรกิจที่มีตัวเลขอัตราการเติบโตสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา หลายแห่งยังเป็นบริษัทที่มีความชำนาญในการบริหารจัดการโกดังและคลังสินค้าอย่างมืออาชีพ สังเกตได้จากมักมีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์การจราจรและเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงานอยู่หลายชนิดให้เห็นได้กัน ตั้งแต่ด้านนอกอาคาร
อาทิ มีไม้กระดกอัตโนมัติ พร้อมกล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่เวรยาม ที่สวมเสื้อสะท้อนแสง เพื่อควบคุม ในการเข้าออกพื้นที่จากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างรัดกุม การติดตั้งป้ายจราจร และกรวยจราจร เพื่อควบคุมเส้นทางเดินรถให้ไปในทิศทางเดียวกัน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ภายในอาคารหรือโกดังที่เก็บสินค้า ก็จะมีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน มีการดูแลระบบน้ำประปา ไฟฟ้า สัญญาณเครือข่ายสื่อสารต่าง ๆ รวมถึง มีมาตรการป้องกันเหตุอัคคีภัย และมีแผนการรับมือกับไฟไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
สำหรับท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า ร้านไทยจราจร ได้ รวบรวมทำเลทองที่เหมาะสมกับธุรกิจประเภทนี้มาฝากกัน ดังนี้
- ทำเลย่านสุขุมวิท 50
เรียกได้ว่า เป็นทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง สำหรับสุขุมวิท 50 ย่านพระโขนง ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดขนส่งสินค้าทางน้ำอย่างท่าเรือกรุงเทพฯ เพียงเดินทางไม่กี่นาที ก็สามารถใช้เส้นทางขนส่งทางพิเศษเฉลิมมหานคร เพื่อการโยกย้ายสินค้าไปยังที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะการขนส่งไปฝั่งกรุงเทพตะวันออก ก็สามารถเป็นไปด้วยความฉับไว
- ทำเลย่านนิคมอุตสาหกรรมบางพลี สมุทรปราการ
เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ดี สำหรับการทำธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า เพราะเท่ากับว่าได้นำพื้นที่ว่างที่มีการบริหารจัดการพร้อมสรร ไว้รอรับสายการผลิตแนวอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงงานสินค้าพลาสติก ที่มีอัตราการเติบโตสูงมากในปัจจุบัน (ซึ่งมีโรงงานจำนวนมากตั้งอยู่ในละแวกนั้นโดยตรง) เส้นทางการขนส่งก็สะดวก อยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษบูรพาวิถี และทางด่วนบางนา-ชลบุรี จึงเป็นจุดกระจายสินค้าไปทางฝั่งตะวันออกของประเทศได้ อย่างง่ายดาย
- ทำเลนิคมอุตสาหกรรมฟาสแฟค พหลโยธิน
เป็นทำเลทองติดถนนพหลโยธิน อยู่ไม่ไกลจากตลาดวังน้อยเมืองใหม่ เหมาะสำหรับการทำธุรกิจขนาดใหญ่ ย่านอยุธยา อยู่ในจุดเชื่อมต่อสำคัญ ทั้ง กรุงเทพ ปทุมธานี นครนายก จึงเรียกได้ว่า เป็นที่ตั้งที่เหมาะอย่างยิ่งกับการพักสินค้ารอถ่ายหรือเคลื่อนย้ายไปทั่วทุกภาคของไทยเลยทีเดียว
- ทำเลย่านศรีนครินทร์ บางนา
เป็นทำเลที่ให้ความสะดวกอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการนำสินค้าเข้าเขตบางนา เพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญในการแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพชั้นนำของประเทศ ขณะที่ในทิศตรงข้ามกันของถนน ก็เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อย่างเซ็นทรัลพลาซ่า บางนา จึงเหมาะอย่างมากกับลูกค้าธุรกิจแนวบริษัท ด้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องแต่งบ้าน เตียง และเครื่องนอน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่งโยกย้ายสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้เพิ่มต้นทุนของธุรกิจโดยใช่เหตุ
- ทำเลย่านถนนกิ่งแก้ว ลาดกระบัง
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเขตลาดกระบังย่านนั้น เป็นจุดศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ในระยะหลังตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เปิดทำการ เราต่างได้เห็นแล้ว ว่ามีบริษัทอุตสาหกรรมทางวิศวกรรมและการช่างเกิดขึ้นมากมายในย่านนั้น จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการลงทุนทำคลังสินค้าให้เช่าทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว
- ทำเลย่านพระรามสอง
ย่านพระรามสองไม่ใช่พื้นที่ห่างไกลใจกลางกรุงเทพอีกต่อไป ถนนสายธนบุรี-ปากท่อในปัจจุบัน สามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนหลายจุดเพื่อขนส่งสินค้าเข้าสู่จุดจัดการจำหน่าย เช่นห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพ ไม่ว่าเซ็นทรัลพระรามสอง ไอคอนสยาม รวมถึง ย่านสมุทรปราการ ซึ่งมี outlet factory หรือศูนย์ขายสินค้าตรงจากโรงงาน เปิดให้บริการแล้วจำนวนไม่น้อย
- ทำเลย่านพระรามสาม
เรียกได้ว่า เป็นทำเลทองอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพเลยทีเดียว เพราะเป็นศูนย์กลางคมนาคมทั้งทางบริการ และทางเรือ เนื่องจากอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา(ข้ามไปก็คือฝั่งสมุทรปราการ) และมีจุดขึ้นทางด่วนมากมายตรงจุดนั้น ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนศรีรัช วงแหวนอุตสาหกรรม ทางด่วนเฉลิมมหานคร ฯลฯ จึงเป็นทำเลคลังสินค้าที่ช่วยส่งเสริมความคล่องตัวทางธุรกิจได้อย่างมาก
- ทำเลพระรามสี่
เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีเลยทีเดียว สำหรับเส้นถนนพระรามสี่ เพราะอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือคลองเตย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร รวมถึงสถานีขนส่งเอกมัยสายตะวันออก จึงเป็นที่เหมาะต่อการเก็บสินค้ารอจำหน่ายทั้งใกล้และไกลกรุงเทพ
การลงทุนทำธุรกิจให้เช่าพื้นที่คลังสินค้าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สำหรับยุคสมัยนี้ แต่ทั้งนี้ หากท่านอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ยิ่งกว่าแบรนด์อื่น ๆ ร้านไทยจราจร ขอแนะนำให้ท่านใส่ใจรายละเอียด ด้านความปลอดภัยเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อมีจุดขายที่แตกต่างและช่วยลดปัญหาในการบริหารจัดการในระยะยาว ได้แก่
(1) เพิ่มป้ายจำกัดความสูงติดตั้งไว้เหนือทางเข้าอาคารเพื่อป้องกันอุบัติภัย และการเสียหายของสินค้า
(2) ติดตั้งป้ายตั้งถังดับเพลิงในจุดที่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจน พร้อมกับมีตารางซักซ้อมส่งเสริมมาตรการรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
(3) เพิ่มไซเรนมือหมุนพร้อมไฟกระพริบ เพื่อเตือนภัยกรณีมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นภายในคลังเก็บสินค้า
(4) เพิ่มป้ายจำกัดความเร็วในการขับขี่ จะช่วยป้องกันอุบัติภัยทางถนนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
หากท่านกำลังมองหาอุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัยและส่งเสริมด้านการจราจรภายในคลังสินค้า เชิญชมสินค้าของเราได้ที่ www.trafficthai.com ตลอด 24 ชั่วโมง
Block "content-bottom" not found