คนไทยขึ้นชื่อว่าเป็นชนชาติที่มีน้ำใจให้แก่กันมาเนิ่นนาน สังเกตจากการใช้ชีวิตทั่วไปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เวลามีอะไรพอช่วยเหลือกันได้ก็ต่างหยิบยื่นน้ำใจให้กันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร ว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปประกอบกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มันก็ทำให้เราได้เห็นว่าบางทีการมีน้ำใจให้กับคนอื่นบ่อยครั้งผลตอบแทนที่ได้กลับมามันย้อนมาทำร้ายเข้าตัวแบบเต็ม ๆ บทความนี้สิ่งที่ ร้านไทยจราจร อยากพูดถึงคือเรื่อง การตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับคนดีหากพบเห็นว่ามีคนโบกรถตอนกลางคืน ? เป็นเรื่องน่าสนใจที่อยากฝากเอาไว้ให้ทุก ๆ คนได้คิดกัน
สำหรับคนที่ต้องขับรถไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ในช่วงเวลากลางคืน ยิ่งไปตามเส้นทางเปลี่ยว ๆ หรือไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนักบ่อยครั้งมักจะเจอกับสถานการณ์ที่ว่ามีคนโบกรถตนเอง แล้วก็ชั่งใจว่าควรให้เขาคนนั้นขึ้นโดยสารไปกับรถเราหรือไม่ ในใจของความเป็นพลเมืองดีก็คิดว่าเขาอาจกำลังเดือดร้อนเรื่องอะไรสักอย่าง เช่น ไม่มีเงินติดตัวเลย, หลบหนีอะไรมาสักอย่าง, ต้องการขอความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมาก ทว่าอีกใจของความเป็นห่วงตนเองก็ต้องคิดต่อสู้กันอยู่แล้วว่า หากอยู่ดี ๆ เราจอดรับเขาแล้วมันไม่ได้เป็นดังที่คิดเอาไว้ตอนแรก เช่น เป็นกลุ่มโจรผู้ร้ายที่ต้องการดักปล้น จี้ ชิงทรัพย์ หนักไปกว่านั้นสิ่งที่โบกอยู่อาจไม่ใช่คนก็ได้ แบบนี้มันก็เสี่ยงชัด ๆ คำถามคือสรุปเราควรจอดรับหรือไม่จอดรับดี ?
หากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ให้คำตอบได้ยากก็คงใช่เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่แวดล้อมด้วย การขับรถในเวลากลางคืนลำพังมันก็ต้องระแวดระวังสิ่ง ๆ ต่างอยู่แล้ว เช่น เวลาขับไปตามถนนที่ไม่ได้มีไฟฟ้าก็ต้องคอยมองว่าถนนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หากโชคดีหน่อยเวลาเจอทางโค้งมี ป้ายเชฟร่อน คอยบอกทางก็ไม่ต้องเหนื่อยใช้สายตามากนัก แต่ถ้าเรากำลังขับมาอยู่ดี ๆ แล้วมีคนโบกรถอย่างที่บอกว่าต้องดูสถานการณ์ความจำเป็นและสภาพแวดล้อมโดยรอบ เช่น ถ้าหากเป็นถนนใหญ่ มีรถวิ่งขับผ่านไปผ่านมาบ้าง ข้างทางมีบ้านเรือน หรือทางข้างหน้ามี สัญญาณไฟจราจร มี ป้อมตำรวจ แบบนี้การจอดรับอาจไมได้อันตรายอะไรมากนัก ก็ลองจอดเทียบข้างแล้วเปิดกระจกสอบถามก่อนว่าอะไรยังไง หากมองเห็นว่าเส้นทางที่เขาไปไมได้มีอันตรายความเป็นพลเมืองดีก็ถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้หากคิดจะจอดรับคนข้างทางจริง ๆ แนะนำว่าไม่ควรขับรถไปคนเดียวอย่างน้อย ๆ ควรมีเพื่อนไปด้วย 1 คน เพื่อความมั่นใจ
อีกกรณีคือหากเราขับรถไปตามเส้นทางที่เปลี่ยว มืด ไม่มีการติดตั้ง โคมไฟถนนโซล่าเซลล์ ใด ๆ ทั้งสิ้น จู่ ๆ ก็มีคนมาโบกรถขอไปด้วยแบบนี้เกรงว่าจะได้รับอันตรายมากกว่าการได้รับความดีความชอบ หากคิดเข้าข้างตนเองก่อนใครที่ไหนจะมาขอโบกรถเวลาดึก ๆ ดื่น ๆ ในสถานที่แบบนี้ มันไม่ใช่บริเวณที่ควรจะมาโบกรถหรือมาหารถเพื่อเดินทางไปไหนต่อไหน ยิ่งกลางค่ำกลางคืนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องยากที่รถจะจอดรับ ดังนั้นการทำแบบนี้อาจคิดได้ว่าเป็นเรื่องผิดวิสัยก็ได้ คนเราการจะกังวลอะไรไปก่อนคือเรื่องดีบางทีเราหวังดีแต่อาจไม่ได้รับสิ่งตอบแทนดี ๆ กลับมาก็ได้เช่นกัน ทำนองว่าเอาตัวรอดเป็นยอดดีไว้ก่อน ส่วนใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเขา อย่างน้อย ๆ ที่สุดเรายังมีครอบครัวต้องดูแลหากเป็นอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มเลยแม้แต่นิดเดียว
จริง ๆ ก็อย่างที่บอกไปมันเป็นเรื่องยากในการตัดสินใจว่าคนที่โบกรถในตอนกลางคืนจะรับหรือไม่รับดีเนื่องจากหากมองในมุมของเหตุผลทั้งสองฝั่งแล้วสามารถรับฟังได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามแม้คนที่ไม่คิดจะรับใครเลยหากมีคนมาโบกรถในเวลากลางคืนก็ไม่ใช่เรื่องผิดและอยากให้คนที่มองคนเหล่านี้ว่าเห็นแก่ตัวก็ควรเปลี่ยนความคิดใหม่ด้วย คนเราทุก ๆ คนใครต่างก็รักตัวเองด้วยกันทั้งนั้น อีกอย่างความมีน้ำใจในบางเรื่องมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมาตัดสินคน ๆ นั้นว่าเป็นคนมีน้ำใจหรือแล้งน้ำใจ คนเราบางทีไม่เคยอยู่ในสถานการณ์อันตรายมาก่อนหรือไม่เคยมีประสบการณ์เฉียดตายมาก่อนจากเรื่องใดก็ตามจะไม่รู้เลยว่าเวลานั้นสมองคิดอะไรอยู่กันแน่ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เองเอาจริง ๆ หากให้เลือกคงไม่ค่อยมีใครอยากจอดรับคนที่โบกรถในเวลากลางคืนอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด ร้านไทยจราจร เองก็อยากฝากกับทุก ๆ คนที่ใช้รถใช้ถนนในยามค่ำคืนว่าให้ระวังอันตรายต่าง ๆ รอบด้านให้ดีไม่ใช่แค่เรื่องของคนที่โบกรถเพื่อหวังชิงทรัพย์เท่านั้น อย่าลืมเช็คสภาพรถให้พร้อมจะได้ไม่ต้องมีปัญหาไปจอดซ่อมจอดเสียจนกลายเป็นตัวเราเองต้องไปโบกรถและไม่มีใครอยากรับ รวมถึงขับขี่อย่างมีสติ เตรียมตนเองให้พร้อมสำหรับเดินทาง ไม่อย่างนั้นอุบัติเหตุหรือเรื่องไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
Block "content-bottom" not found
Block "catalog-trafficfence" not found