ประเทศไทย ทำให้รถหายติด ได้หรือไม่?

เชื่อ ร้านไทยจราจร ได้เลยครับ เวลาที่ใครนึกถึงประเทศไทย สิ่งหนึ่งที่จะต้องนึกถึงแน่ ๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของปัญหารถติด ยิ่งถ้าเป็นในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เราด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามันสาหัสขนาดไหนโดยเฉพาะเวลาเร่งด่วนช่วงเช้ากับช่วงเย็นบางคนใช้เวลาเดินทางอยู่บนท้องถนนยาวนานกว่า 2-3 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ถึงขนาดถูกมองว่ารถติดในบ้านเรากลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วเรียบร้อย ยังไม่นับรวมช่วงเวลาเทศกาลที่การจราจรในเมืองกรุงอาจเบาบางลงหน่อย ทว่ามันก็ไปมีปัญหากับเส้นทางตามต่างจังหวัดทั้งหลาย ไม่ต้องคิดเลยว่าพ่อแม่พี่น้องที่เดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวจะต้องเผชิญกับความยากลำบากขนาดไหนเมื่อต้องอยู่บนรถนานหลาย ๆ ชั่วโมง

ก่อนคิดตั้งคำถามว่าประเทศไทยของเราจะทำอย่างไรให้รถหายติด หรือมันมีวันเป็นไปได้หรือไม่ที่การจราจรจะเบาบางลง ก็คงต้องย้อนมองไปยังสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหารถติดกันก่อนซึ่งมันมีอยู่หลายปัจจัยทีเดียวที่ทำให้ทุกวันนี้สภาพการจรจรในบ้านเรามันช่างย่ำแย่

  1. ข้อแรกเลยคงไม่พ้นค่านิยมของคนไทยที่มองว่าการมีรถเป็นเรื่องโก้หรู เป็นเรื่ออวดร่ำอวดรวย (แม้บางคนจะไม่ได้คิดแบบนั้น ต้องการซื้อรถเพื่อไว้ใช้งานจริง ๆ ) แต่ก็มีคนอีกมากที่เมื่อมองความสำคัญแล้วแทบไม่ได้รู้สึกถึงความจำเป็นเลยว่าต้องมีรถยนต์ไว้ทำไม แต่มีเอาไว้เพื่อบ่งบอกสถานะทางสังคมเฉย ๆ บางบ้านพ่อแม่ลูกมีรถยนต์คนละคัน เมื่อนำเอามาวิ่งบนถนนพร้อมกันก็เท่ากับว่ามี 3 คัน เข้าให้แล้ว
  2. ไม่มีกฎหมายรองรับเกี่ยวกับเรื่องการซื้อรถยนต์ – อย่างประเทศญี่ปุ่นเขามีกฎหมายระบุไว้ชัดเจนเลยว่าใครที่จะซื้อรถเป็นของตนเองได้จะต้องมีที่จอดรถของตนเองด้วยไม่อย่างนั้นจะซื้อไม่ได้เด็ดขาด ต่างกับเมืองไทยที่แม้ยังมองไม่ออกเลยว่าจะมีที่จอดรถตรงไหนในบริเวณบ้าน แต่จะขอซื้อเอาไว้ก่อนเรื่องที่จอดค่อยว่ากันภายหลัง
  3. บรรดาค่ายรถยนต์ต่างออกแคมเปญเย้ายวนใจ – เรื่องจริงอันน่าตกใจของปัญหาการจราจรอีกอย่างคือบรรดาค่ายรถยนต์ต่าง ๆ นิยมออกแคมเปญที่ดึงดูดใจให้คนหันมาซื้อรถยนต์กันเยอะขึ้น แน่นอนเมื่อรถขายดีขึ้น ปัญหามันก็ไปตกอยู่กับผู้คนที่ใช้รถบนท้องถนนเพราะปริมาณรถย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วยนั่นเอง
  4. ระบบคมนาคมสาธารณะบ้านเรายังไม่พัฒนา – สิ่งนี้คืออีกสิ่งสำคัญซึ่งต้องบอกเลยว่าส่วนหนึ่งที่เมืองไทยเป็นเมืองแห่งรถติดเพราะระบบคมนาคมสาธารณะบ้านเรายังไม่ไปไหนไกล ต่างประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว ล้วนมีระบบขนส่งสาธารณะสำคัญคือระบบราง แต่ไทยเรานั้น กลับมีอยู่แค่ตัวเมืองหลวงเท่านั้น คนที่อาศัยชานเมืองก็ยังจำเป็นต้องใช้รถยนต์อยู่ดี

แล้ววิธีแก้ปัญหาของคนส่วนใหญ่ที่เขาทำกันมันก็มีหลายประเด็นรวมถึงบรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย โดยวิธีแก้ปัญหาที่เราเห็นกันอยู่หรือบางวิธีที่อยากเห็นในอนาคตประกอบไปด้วย

  1. เริ่มมีการเก็บค่าธรรมเนียมการจอดรถ – อย่างล่าสุดพึ่งมีการประกาศไม่นานว่าจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมการจอดรถตามถนนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งวิธีนี้มองว่าจะช่วยให้การใช้รถยนต์ของคนน้อยลง บางทีถ้าพวกเขาเห็น ป้ายจราจร ว่ามีการเก็บค่าธรรมเนียมการจอดอาจช่วยลดปริมาณรถลงได้บ้าง
  2. เพิ่มเส้นทางให้มากขึ้น – เรามักเห็นว่าอีกวิธีที่ช่วยลดปัญหาการจราจรคือการเพิ่มเส้นทางให้มากขึ้น โดยทำทำคู่ขนานกันไป แต่ปัญหานี้กว่าจะเสร็จมันก็ทำให้รถติดระเบิดซึ่งคนที่ใช้รถเส้นทางดังกล่าวก็ยังคงต้องอดทนกันต่อ
  3. สร้างสะพานหรืออุโมงค์ข้ามแยก – วิธีนี้ก็คล้ายกับวิธีที่แล้ว เพียงแต่บางแยกเราไม่ต้องรอ สัญญาณไฟจราจร เราก็สามารถผ่านแยกนั้นได้เลย ทว่าระหว่างการสร้าง ก็จะทำให้รถติดแบบไม่ต้องสงสัยเช่นกัน
  4. สร้างระบบคมนาคมสาธารณะให้เยอะขึ้น – โดยเฉพาะประเภทรางที่จะทำให้คนหันไปใช้บริการมากขึ้น สร้างให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศได้จะยิ่งดีมากแม้ว่าอาจต้องใช้เวลานาน ทว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะช่วยลดปัญหารถติดในเมืองไทยได้แน่นอน

 

สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุพร้อมวิธีแก้ไขที่เราเห็นกันอยู่ครับ มันคือเรื่องจริงของปัญหารถติดในบ้านเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่ไม่นับรวมบรรดาสิ่งกีดขวางต่าง ๆ บนท้องถนน เช่น เวลาเกิดอุบัติเหตุซึ่งบ่อยครั้งมันยิ่งทำให้รถติดมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ต้องมีการเอา กรวยจราจร มาตั้งไว้เพื่อให้เลี่ยงเส้นทาง หรือบางเส้นทางมีหลุมบ่ออาจก่อให้เกิดอันตราย และยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากที่สร้างปัญหาการจราจร ก็มีการนำเอา แผงกั้นจราจรบรรจุน้ำ หรือแบริเออร์ มากั้นเอาไว้เพื่อไม่ให้รถผ่านจุดที่มีปัญหา อุปกรณ์จราจรเหล่านี้จึงสามารถช่วยคลายปัญหารถติดเฉพาะหน้าได้อย่างดี

สรุปสุดท้ายต่อคำถามที่ว่าประเทศไทยของเราสามารถทำให้รถหายติดได้หรือไม่ ถ้าเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ร้านไทยจราจร มองว่ายังไงก็เป็นเรื่องยาก นอกเสียจากการคมนาคมสาธารณะบ้านเราจะพัฒนามากขึ้นพร้อมกันนี้ผู้คนเริ่มเข้าใจมุมมองการใช้รถยนต์มากขึ้นทำนองไม่จำเป็นต้องมีก็ชีวิตเป็นสุขได้ ในอนาคตเมืองไทยของเราก็อาจเป็นเมืองที่การจราจรเบาบางลงดังที่หลายคนต้องการ

Block "content-bottom" not found